สธ.ย้ำผู้เกี่ยวข้องตลาดพรพัฒน์ช่วง 9-13 ก.พ. แยกกักตัว หากผิดปกติให้รีบพบแพทย์

21 ก.พ. 2564 | 02:09 น.

สธ.ย้ำผู้ขายและผู้ที่ไปซื้อสินค้าที่ตลาดพรพัฒน์ จ.ปทุมธานี ช่วงวันที่ 9-13 ก.พ. หรือก่อนหน้านี้ 7 วัน แยกตัวสังเกตอาการ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หลีกเลี่ยงหากผิดปกติให้รีบพบแพทย์



นายแพทย์จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 สระบุรี ได้ดำเนินการคัดกรองเชิงรุกตั้งแต่วันที่ 9 – 19 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ตลาดพรพัฒน์และตลาดใกล้เคียง จังหวัดปทุมธานี กว่า 10,000 คน พบผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ 415 คน 

ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าคนไทยในตลาด และลูกจ้างแรงงานต่างด้าว พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกว่า 900 คน ติดตา ได้แล้ว 300 กว่าคน อยู่ระหว่างติดตามอีก 500 กว่าคน จึงขอให้ผู้ที่ไปตลาดหรือผู้เกี่ยวข้องตลาดพรพัฒน์ ช่วงวันที่ 9-13 กุมภาพันธ์ 2564 หรือก่อนหน้านี้ 7 วัน แยกสังเกตอาการตนเอง ลดการพบปะผู้อื่น หลีกเลี่ยงเดินทางไปสถานที่มีคนจำนวนมาก สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา รักษาระยะห่าง หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน แยกสำรับอาหารและของใช้ส่วนตัว หมั่นล้างมือบ่อยๆ ถ้าไม่แน่ใจหรือมีอาการสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือโทรสายด่วน 1422 หรือพบแพทย์ใกล้บ้าน 

 

นายแพทย์จักรรัฐกล่าวต่อไปว่า สำหรับประชาชน การไปตลาดแนะนำที่มีคนไม่หนาแน่น เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในตลาด ใช้แอปพลิเคชันหมอชนะ สแกนไทยชนะก่อนเข้าตลาด  เจ้าของตลาด ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค มีการควบคุมจำนวนคนเข้า-ออก คัดกรองวัดไข้ก่อนเข้าตลาด จัดเส้นทางเดินทางเดียว ส่วนพ่อค้าแม่ค้าซึ่งต้องอยู่ในตลาดเป็นเวลานาน ขอให้สวมหน้ากากอย่างถูกวิธี ที่สำคัญขอให้ทำความสะอาดแผงกั้นระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายซึ่งเป็นจุดเสี่ยงสำคัญให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ สร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ

“ในการจัดการตลาด ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด สำรวจตลาดสด ตลาดนัดที่มีความเสี่ยงแพร่กระจายเชื้อ ให้สุ่มตรวจค้นหาเชิงรุก ร่วมกับกรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กรมควบคุมโรค และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยเฉพาะตลาดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ซึ่งมีคนใช้บริการจำนวนมาก มีแรงงานต่างด้าวทำงานจำนวนมาก เพื่อแยกผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการดูแลรักษาต่อไป” นายแพทย์จักรรัฐกล่าว