จับตา คลัสเตอร์โต๊ะแชร์มหาสารคาม พบกลุ่มเสี่ยงโควิดกว่า100 ราย

01 ก.พ. 2564 | 06:19 น.

ศบค.เผย คลัสเตอร์โต๊ะแชร์มหาสารคาม มีผู้เสี่ยงสูง 78 ราย เสี่ยงต่ำ 32 ราย รวมเป็น 110 ราย อยู่ระหว่างรอผลการสอบสวนโรคเพิ่มเติม

 

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) กล่าวถึงการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มก้อนวงโต๊ะแชร์ใน จ.มหาสารคามว่า ผู้ป่วยชายรายแรกของคลัสเตอร์นี้เดินทางเข้ามากรุงเทพฯในช่วงปีใหม่ คาดว่าจะได้รับเชื้อ จากนั้นเดินทางกลับมหาสารคามในวันที่ 3 ม.ค. แต่ระหว่างนั้นได้แวะเยี่ยมพี่สาวที่ จ.นครราชสีมา ทำให้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 8 คน
          

ต่อมาผู้ป่วยชายรายนี้ยังได้ไปสถานที่ต่างๆ ใน จ.มหาสารคามอีก เช่น ตลาด ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ร้านอาหาร รวมถึงกินเลี้ยงโต๊ะแชร์อีก 5-6 งานในระหว่างวันที่ 10-21 ม.ค. ซึ่งในคลัสเตอร์นี้ทำให้มีผู้เสี่ยงสูง 78 ราย เสี่ยงต่ำ 32 ราย รวมเป็น 110 ราย อยู่ระหว่างรอผลการสอบสวนโรคเพิ่มเติม ซึ่งจะมีการแถลงรายละเอียดโดยกระทรวงสาธารณสุขช่วงบ่ายนี้
          

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ต้องเรียนรู้จากคลัสเตอร์นี้ คือ ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ไปงานเลี้ยงโต๊ะแชร์กลุ่มนี้จะอยู่ในวัยที่ค่อนข้างมีอายุ 50-70 ปี ซึ่งงานเลี้ยงโต๊ะแชร์เมื่อมีการรับประทานอาหารร่วมกัน ดื่มสุรา และไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย อยู่ร่วมกันเกินกว่า 15 นาทีในสถานที่ปิด มีการพูดคุยกันเสียงดัง อาจมีการไอจามรดกัน ที่สำคัญไม่ได้มีการสแกนแอปฯ ไทยชนะหรือหมอชนะ ซึ่งทำให้ยากต่อการติดตามผู้สัมผัสมาสอบสวนโรค
          

 

"นี่ก็นำไปสู่คำถามว่าผ่อนคลายมาตรการแล้ว ทำไมไม่ให้ดื่มสุรา ทำไมร้านต้องจำกัดเวลา ก็เพราะตัวเลขที่เห็นเหล่านี้ทำให้ต้องมาวิเคราะห์ มาเรียนรู้ สิ่งสำคัญคืออยากให้ผู้ประกอบการช่วยเสนอมาตรการเข้ามาด้วยว่าจะกำกับดูแลลูกค้าหรือผู้เข้าไปใช้บริการอย่างไร ซึ่งศบค.จะได้นำมาพิจารณาว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะทำให้เศรษฐกิจดำเนินต่อไปได้ มาตรการทางสังคมก็ทำให้คนสามารถดำเนินชีวิตต่อได้ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่การระบาดยังสามารถควบคุมได้" พญ.อภิสมัย ระบุ

 

 

นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวถึงไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายแรกจากกลุ่มเลี้ยงโต๊ะแชร์ที่จ.มหาสารคามว่า เป็นชายอายุ 46 ปี มีประวัติเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาพักย่านสุทธิสาร เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.63 ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงที่มีความเสี่ยงติดเชื้อ และต่อมาวันที่ 3 ม.ค.64 ได้เดินทางกลับจังหวัดมหาสารคาม ระหว่างทางแวะกินข้าวกับแม่และญาติที่จังหวัดนครราชสีมา ทำให้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 8 ราย หลังจากนั้นกลับมาเปิดร้าน ซึ่งปกติจะไม่ใส่หน้ากากหากไม่มีลูกค้า และเดินทางไปสถานที่ต่างๆ
          

ผู้ป่วยเริ่มมีอาการไข้ในวันที่ 10 ม.ค.64 และเริ่มปวดเมื่อยตามตัวในวันที่ 18 ม.ค.64 แต่ยังไม่ได้ไปพบแพทย์และไปร่วมงานเลี้ยงอีกหลายครั้ง จนกระทั่งวันที่ 23 ม.ค.64 มีอาการป่วยจึงไปพบแพทย์ที่ศูนย์แพทย์แต่อาการยังไม่ดีขึ้น และในวันที่ 27 ม.ค.64 จึงเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาสารคาม ซึ่งผลตรวจออกมาติดเชื้อ
          

ในวันที่ 28 ม.ค.64 พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มอีก 5 คน คือ ภรรยาของผู้ป่วยชายรายนี้ และเพื่อนที่นั่งกินเลี้ยงด้วยกันอีก 4 คน ซึ่งผู้ป่วยติดเชื้อเหล่านี้ยังนำเชื้อไปแพร่ต่อให้คนในครอบครัว ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เช่น ในรายเด็กหญิงอายุ 4 เดือนที่จังหวัดราชบุรี ติดจากคนในครอบครัวที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยรายแรก จากนั้นในวันที่ 29 ม.ค.64 ก็พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น และมีการตรวจเชิงรุกในวันที่ 30 ม.ค.64
          

ล่าสุดกรณีนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อแล้ว 16 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยง 110 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 78 ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 32 ราย ขณะนี้ยังรอผลตรวจหาเชื้อ รวมทั้งการสอบสวนโรคเพิ่มเติมจากผู้ติดเชื้อกลุ่มก้อนเดียวกันที่เดินทางไปจ.ขอนแก่น

 

ช่าวที่เกี่ยวข้อง

ยอดติดเชื้อโควิด 1 ก.พ.64 รายใหม่ 836 ในประเทศ 832 หายป่วยเพิ่ม 899 ราย

เปิดข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 836 ราย

สูงต่อเนื่อง! สมุทรสาคร ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 814 ราย ป่วยสะสม 1.13 หมื่นราย