ไวรัสกลายพันธุ์ 75 ประเทศ COVID-19 ระบาดหนักรอบ 2

31 ธ.ค. 2563 | 05:18 น.

"หมอประสิทธิ์" สรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดรอบสอง 75 ประเทศทั่วโลก ระบาดรอบสองหนักกว่ารอบแรก 88% เผยหนึ่งในสาเหตุคือการกลายพันธุ์ของไวรัส ประมาณการ ทุกๆ 3 วัน มีผู้ป่วยทั่วโลกเพิ่มขึ้น 2 ล้านคน ขณะที่สหรัฐฯ จะมีผู้เสียชีวิตวันละ 2,000 คนหลังปีใหม่ เพราะปริมาณผู้ป่วยเกินศักยภาพการรับมือ

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้สรุปประเด็นสำคัญสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 สถานการณ์รวมขณะนี้ 75 ประเทศทั่วโลก 75 เกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด -19 รอบสอง มันหนักกว่ารอบแรก ถึง 88% ส่วนที่การระบาดมีน้อยกว่ารอบแรก มีเพียง 12% จากสถิติทุกๆ 3 วัน จะมีอัตราผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2 ล้านคน และมีอัตราเสียชีวิตใกล้ๆ 1 หมื่นคนต่อวัน โดยสหรัฐอเมริกาถือมีการอัตราการเสียชีวิตสูงมาก มีแนวโน้มเสียชีวิตเฉลี่ย 2,000 คนต่อวันตั้งแต่เดือนมกราคม 2564  

ไวรัสกลายพันธุ์ 75 ประเทศ COVID-19 ระบาดหนักรอบ 2

สหรัฐอเมริกา สถานการณ์โดยรวมยังไม่ดีขึ้น แม้จะมีวัคซีนแล้ว เนื่องจากหลังการฉีดยังไม่แสดงผล เพราะฉะนั้นตัวเลขการเพิ่มของผู้ป่วยจึงยังมีอยู่ โดยจุดผกผันของปริมาณที่เพิ่มขึ้นสูงเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วยอัตราการเสียชีวิตที่วิ่งขึ้นอีก จากตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ทั้งโลกที่มีมากกว่า 82 ล้านคน มีสัดส่วนผู้ติดเชื้อในสหรัฐอเมริกาถึง 19 ล้านและมีอัตราผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นสูงมากตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมาและคาดการณ์ว่าหลังปีใหม่สหรัฐอเมริกา มีโอกาสที่จะมีผู้ป่วยเสสียชีวิตทะลุวันละ 2,000 คน เหตุเพราะปริมาณผู้ป่วยหนัก มีเกินกำลังการรับมือของหน่วยแพทย์

ฝรั่งเศส เป็นอีกหนึ่งประเทศที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 รุนแรงกว่ารอบแรก นักจากวันที่สถานการณ์ของฝรั่งเศสเริ่มดีขึ้น จึงมีการเปิดปรเะทศเพื่อกู้เศรษฐกิจ แต่ทันทีที่เปิดประเทศการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ก็เริ่มกลับมา จนต้องทำให้ต้องสั่งล็อคดาวน์ประเทศอีกครั้ง ตอนนี้มีปริมาณผู้ติดเชื้อแล้วทะลุ 2.5 ล้านคน เสียชีวิต วันละ 200-300 คน
 

ส่วนสหราชอาณาจักร รอบแรกเริ่มลงมาดี แต่เมื่อประมาณกันยายน เริ่มเจอไวรัสโควิด -19 ที่เกิดการกลายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ B1.1.7 ซึ่งแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์ G614 มาก ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากหลักพันธุ์ทะลุ 3 หมื่นคนต่อวัน และทะลูสู่ 4 หมื่นคนต่อวัน จนขณะนี้มีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 2.3 ล้านคน โดยมีอัตราผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเช่นกัน

สำหรับญี่ปุ่น เกือบเป็นระลอก 3 แล้ว ญี่ปุ่นมีการปิดเมืองหลายครั้ง แต่ยังเอาไม่อยู่ มีอัตราการติดเชื้อต่อวัน 3,000 คน ตอนพฤษภาคมเหมือนคุมได้ดีขึ้น แต่หลังกันยายนกลับมาผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีผู้ป่วยทะลุ 2 แสนคน ไปแล้ว

สาเหตุที่ญี่ปุ่นเจอการแพร่ระบาดหนักต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากการที่ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีผู้สูงวัยเยอะ และในประเทศที่มีอากาศหนาว ก็ทำให้มีโอกาสในการแพร่กระจายของไวรัสโควิด -19 ได้สูง ทำให้ขณะนี้ ญี่ปุ่นมีอัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

เช่นเดียวกับเกาหลีใต้ ซึ่งประเทศเมืองหนาว อันตรายคือ คนส่วนใหญ่อยู่ในสถานที่ปิด และไม่ใส่หน้ากาก จึงทำให้เกิดการแพร่ระบาดได้ง่าย และการแพร่ระบาดในเกาหลีใต้รอบใหม่นี้ ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการมากมาย เพื่อควบคุม

สำหรับในปรเะทศเพื่อนบ้านของไทย อย่างมาเลเซีย ที่พบผู้ติดเชื้อรายแรกที่หลังไทย แต่หลังจากนั้นก็เกิดการแพร่ระบาดหนักจนทิ้งห่างไทย และการระบาดรอบ 2 ที่เริ่มต้นราวเดือนกันยายนเช่นกัน ตอนนี้มีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นเกินหลักพันรายต่อวัน จนขณะนี้มีผู้ป่วยรวมเกินหลักแสนรายแล้ว ส่วนเมียนมาร์ จากรอบแรกที่มีผู้ป่วย 409 ราย ขณะนี้ตัวเลขขยับขึ้นเป็น 1.23 แสนราย ในเวลาเพียงแค่ 3-4 เดือนเท่านั้น โดยการแพร่ระบาดส่วนใหญ่ มาจากไวรัสสายพันธุ์ G614 ส่วนสายพันธุ์ที่มาจากจีนคือ D614

ไวรัสกลายพันธุ์ 75 ประเทศ COVID-19 ระบาดหนักรอบ 2

ส่วนไทย การแพร่ระบาดรอบ 2 ตัวเลขผู้ติดเชื้อทะลุหลัก 100 อย่างรวดเร็ว จากจุดที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาด 2 จุด คือ สมุทรสาคร และระยอง ทำให้ขณะนี้มีการแพร่ระบาดในประเทศแล้ว 

ครั้งนี้ที่ต่างจากรอบแรก คือ ผู้ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายทำให้กระบวนการติดตามตรวจเช็คไม่ครอบคลุม คนพวกนี้จะหลบ ไม่เปิดเผยตัว ไม่ได้ตรวจ ถ้าบังเอิญเขามีเชื้อในตัว มันทำให้เกิดการแพร่กระจายได้

เพราะฉะนั้น นายแพทย์ประสิทธิ์ จึงเน้นย้ำว่า ปีใหม่นี้ควรเคาน์ดาวน์ที่บ้านในครอบครัว เพื่อไม่ต้องไปเสี่ยงกับโควิด -19 โดยนำเทคโนโลยีมาช่วย ทำให้สามารถเคาน์ดาวน์ร่วมกับเพื่อนๆ ที่อยู่กับบ้านและครอบครัวด้วยเช่นกัน