รัฐต้องก้าวให้ทัน “กัญชา”

10 มี.ค. 2564 | 08:50 น.

รัฐต้องก้าวให้ทัน “กัญชา” : คอลัมนฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3660 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 11-13 มี.ค.2564 โดย...กาแฟขม

 

**** หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3660 ระหว่างวันที่ 11-13 มี.ค. 2564 ลึก ตรงประเด็น เห็นโอกาส

**** ชั่วโมงนี้ใครไม่พูดถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง กัญชง กัญชา ตกเทรนด์แน่นอน ต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อน กัญชาไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไป แต่เป็นนวัตกรรมและเป็นพืช เป็นธุรกิจที่จะดิสรัปคนและสังคมไปมากมาย หากใครก้าวและคว้าไว้ไม่ทันก็จะตกขบวน  

**** กัญชา กัญชง ที่ถูกกฎหมายสามารถนำไปแปรรูปสินค้าได้หลายอย่าง อาหาร เครื่องดื่ม การแพทย์ เครื่องสำอาง ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมีมากมาย แต่ต้องผลิตแบบมีคุณภาพและถูกกฎหมาย สารที่สกัดจากกัญชามีทั้ง CBD ส่วนใหญ่ใช้ในทางการแพทย์ และ THC ที่สกัดออกมา ซึ่งองค์ความรู้เกี่ยวเนื่องกัญชาต้องกระจายในวงกว้างให้มากที่สุด

**** ที่สำคัญของประเด็นนี้เกรงว่าหน่วยงานรัฐ จะยังเป็นอุปสรรคในการก้าวเดินของอุตสาหกรรมกัญชา โดยเฉพาะการกั๊กใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย ว่าง่ายๆ ว่าหน่วยงานรัฐก้าวไม่ทัน แต่เกษตรกร วิสาหกิจชุมชนที่จะปลูกก้าวไปแล้ว อุตสาหกรรมต่อเนื่องเริ่มก้าวแล้ว ฝ่ายการเมืองผู้กำกับดูแลนโยบาย หน่วยงานราชการผู้ถืออำนาจรัฐ กฎหมายก็ต้องก้าวตามให้รวดเร็วทันกับกลุ่มความเคลื่อนไหวทางสังคม ไม่ใช่ให้การเมืองเป็นอุปสรรค หรือคอยหาประโยชน์หรือรอให้กลุ่มผลประโยชน์ที่เตรียมไว้พร้อมก่อน หรือมีใครเตรียมการเรื่องนี้เอาไว้หาเสียงเลือกตั้งในรอบหน้า ขออย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย ให้มองเห็นโอกาสลืมตาอ้าปากให้กับเกษตรกร ได้ปลดหนี้ เปลื้องสินด้วยการปลูกกัญชาบ้าง

**** งานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จำต้องกระโดดลงมาดูแลเองซะละกระมัง ทำให้กัญชาเป็นวาระแห่งชาติเสียเถิด ทำเสียให้เด็ดขาดอย่าปล่อยให้ใครลากไปหาประโยชน์ให้ประชาชนเสียโอกาส กัญชาเกี่ยวข้องไปแทบทุกกระทรวง จึงต้องหาทางบูรณาการให้ได้ กระทรวงเกษตรฯ ต้นทางว่าด้วยเรื่องวิสาหกิจชุมชน จัดที่จัดทางเพาะปลูกทั้งหลาย มาที่กระทรวงสาธารณสุข เรื่องแพทย์ เรื่องหมอ เรื่องยาทั้งยาไทย ยานอก กระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องพัฒนาเรื่องหาเครื่องจักรผลิต สกัด กลั่น กระทรวงพาณิชย์เรื่องตลาดเรื่องขายเรื่องแบรนด์เครื่องหมายการค้า กระทรวงการคลัง เรื่องสถาบันการเงิน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เรื่องสถาบันการศึกษา วิจัย ต่อยอดผลิตภัณฑ์กัญชา ก็เกี่ยวข้องไปหมดหลายๆ กระทรวง จำต้องเป็นเอกภาพ“ลุงตู่”ดูดีๆ

**** ไปที่เรื่องโควิด-19 กันหน่อย หลังได้รับวัคซีนกันไปบ้างแล้ว ตามการจัดสรรกลุ่มบคลากรการแพทย์มาก่อน นายกฯ ได้เตรียมการ สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข ประชุมเร่งรัดให้พิจารณาข้อกำหนดการออกพาสปอร์ตวัคซีนโควิด-19 ระหว่างรอองค์การอนามัยโลก(WHO) กำหนดมาตรฐานกลางเพื่อให้ทุกประเทศทั่วโลกใช้มาตรฐานเดียวกัน กูรูเขาออกมาบอกว่าต่อไปการเดินทางทั่วโลก ผู้ที่จะซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางได้ ต้องมีพาสปอร์ตวัคซีนก่อน สมาคมขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างประเทศ IATA เริ่มขยับที่จะหารูปแบบแนวทางกันแล้ว ซึ่งไทยเองก็ต้องหาทางร่วม

**** โควิด-19 ยังคงทำให้หลายๆ ที่เงียบเหงา สถานท่องเที่ยวต่างๆ ก็ได้แต่หวังว่าสงกรานต์ที่จะมาถึงนี้จะเกิดความคึกคักขึ้นมาบ้าง ซึ่งรัฐบาลเตรียมวางแนวทางการผ่อนคลายทำกิจกรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะเปิดการสัญจรเดินทางไปทุกพื้นที่ โดยพิจารณามาตรการรองรับในการป้องกันโควิด-19 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กำลังพิจารณา แต่ต้องระวังไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในระลอกใหม่ ต้องระมัดระวังการเคลื่อนที่ของประชาชนจำนวนมาก แต่ด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยว การค้าขาย โรงแรม ก็มีความจำเป็น

**** ประเมินออกมาล่าสุดจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ภายใต้เงื่อนไขวัคซีนพาสปอร์ต สามารถดำเนินการได้หรือการเดินทางระหว่างประเทศมีข้อจำกัดน้อยลง ประกอบกับอัตราการฉีดวัคซีนของตลาดสำคัญ 10 ประเทศ ได้แก่ จีน ยุโรปตะวันตก สหรัฐฯ รัสเซีย เอเชียและอาเซียนบางประเทศ จากขณะนี้ไปจนถึงช่วงเดือนกันยายน ประเมินว่าอาจทำไห้มีนักท่องเที่ยวจาก 10 ประเทศนี้ เข้ามาท่องเที่ยวไทยในช่วงไตรมาส 4 ราว 1.9 ล้านคน ซึ่งเมื่อรวมกับช่วง 9 เดือนแรกของปี จะได้เห็นตัวเลข 2 ล้านคนในปี 2564 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าไทย จำเป็นที่ผู้เกี่ยวข้องในภาคการท่องเที่ยวจะต้องได้รับวัคซีน หากประเมินจากการจ้างงานในธุรกิจโรงแรมในพื้นที่ 20 จังหวัด ที่พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติ อาจต้องการวัคซีนอย่างน้อย 2.2 แสนโดสก่อนเดือนตุลาคม

**** ว่าด้วยเรื่องการเมืองสักนิด ศึกเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช ประชาธิปัตย์เสียพื้นที่ให้พลังประชารัฐ เป็นความไม่ธรรมดา การพ่ายแพ้ครั้งนี้จำต้องลงลึกเมื่อชื่อปชป.ไม่ขลังสำหรับพื้นที่ภาคใต้ ต้องทบทวนตัวเองใหม่ครั้งใหญ่ บุคคลที่พรรคส่งไม่ใช่ใครก็ได้อีกต่อไป พึงระวัง หากยังคงคิดแบบเดิม ภาคใต้ก็อาจเป็นเหมือนสนาม กทม.เมื่อครั้งเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา ต้องทบทวนทั้งส่งตัวบุคคล นโยบาย รักษาความเป็นสถาบันการเมืองของ ปชป.ให้ได้ จะขายอะไรกับคนภาคใต้ต้องคิดใหม่ตั้งแต่วันนี้ โลกมันหมุนเร็วเกินไป คนก็ต้องปรับให้เร็ว ยืดหยุ่น ทันสมัย เรื่องอื่นโดยเฉพาะเกมการเมือง ปชป.ล้วนเชี่ยวกราก คงไม่ต้องพูดถึง เกรงจะกลายเป็นสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำไป ก็อย่าได้ไปตีโพยตีพายตีอกชกหัวอะไร กลับมานั่งทบทวนตัวเองก็เห็นแสงสว่าง อะไรเป็นจุดอ่อน อะไรเป็นจุดแข็ง หวังว่าคงจะแยกแยะได้ ว่ากันจริงพรรคนี้ถือได้ว่าเป็นพรรคของประชาชน ต่างจากพรรคการเมืองอื่นที่มีคนเป็นเจ้าของสั่งซ้ายหันขวาหันได้ แต่พรรคนี้ไม่มีวัฒนธรรมเช่นนั้น ซึ่งเป็นจุดที่ต้องชื่นชม