"ม.33 เรารักกัน" ลุ้นครม.ไฟเขียว 9 ก.พ.นี้

06 ก.พ. 2564 | 23:00 น.

"ม.33 เรารักกัน" ลุ้นครม.ไฟเขียว 9 ก.พ.นี้ : คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3651 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 7-10 ก.พ.2564 โดย...ว.เชิงดอย

+++ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ได้รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า ประเทศไทย พบ ผู้ป่วยรายใหม่ 795 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 21,249 ราย (ระลอกใหม่ 17,012 ราย) รักษาหายแล้ว 14,001 ราย ยังรักษาอยู่ 7,169 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ผู้ป่วยเสียชีวิตสะสมรวม 79 คน

 

+++ เฉพาะในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) พบผู้ติดเชื้อใหม่ 4 ราย เป็นการติดเชื้อภายในประเทศจากการไปพื้นที่เสี่ยง มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้  ประกอบด้วย เพศชาย 3 ราย อายุ 21, 29, 30 ปี เพศหญิง 1 ราย อายุ 50 ปี เป็นสัญชาติไทย 3 ราย สัญชาติเมียนมา 1 ราย ไม่มีอาการ 1 ราย และมีอาการ 3 ราย ทั้งหมดรักษาตัวโรงพยาบาลเอกชนใน กทม. ทำยอดผู้ติดเชื้อสะสม อยู่ที่ 799 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 2,335 ราย เป็นอับดับ 2 รองจากสมุทรสาคร ทั้งนี้ พื้นที่ “สีแดง” ยังอยู่ที่ สมุทรสาคร และ กรุงเทพฯ จึงต้องดำเนินการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกให้ได้มากที่สุด และขอความร่วมมือประชาชนใน 2 จังหวัดดูแลสุขลักษณะส่วนบุคคลอย่างเข้มงวดต่อไป

 

+++ ชะแว๊บไปดู อาการของ นายวีระศักดิ์ วิจิตรแสงศรี พ่อเมืองสมุทรสาคร ที่รักษาอาการติดเชื้อโควิด-19 อยู่ ร.พ.ศิริราช ล่าสุด นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ทุกอย่างบ่งชี้ว่าสามารถควบคุมการติดเชื้อได้ นับเป็นสัญญาณที่ดีและภายใน 1-2 วันนี้ เตรียมหยุดยาปฏิชีวนะ (ยาลดการอักเสบ) เนื่องจากไม่มีไข้และไม่พบการติดเชื้อเพิ่ม ระดับออกซิเจนในปอดดี เช่นเดียวกับระดับออกซิเจน และ คาร์บอนไดออกไซด์ ในกระแสเลือด ระบบทางเดินหายใจดีขึ้น เตรียมเอ็กซเรย์ปอดและจะเริ่มการฟื้นฟูการหายใจ และกายภาพฟื้นฟูกล้ามเนื้อแขนขาหลังนอนนาน 1 เดือน ที่ผ่านมาผู้ว่าฯ สามารถปฏิบัติตามคำสั่งได้ดี ทั้งการกะพริบตา พยักหน้า ลืมตา โดยเมื่อภริยาผู้ว่าฯ เข้าไปเยี่ยมรู้สึกได้ว่า ผู้ว่าฯ มีความสงบดี แต่เมื่อพูดคุยสถานการณ์ในจังหวัดสมุทรสาครพบว่าผู้ว่าฯกลับมากระสับกระส่าย แสดงว่าห่วงงานอยู่ …ขอเอาใจช่วยท่านผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ให้มีอาการดีวันดีคืน  

+++ เคาะออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการ “เยียวยาผู้ประกันตน ม.33” หลัง บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมร่วมทีมเศรษฐกิจ และเตรียมเสนอมาตรการดังกล่าวเข้าที่ประชุม ครม.ในวันอังคารที่ 9 ก.พ.นี้ ด้วยโครงการที่เรียกว่า "ม.33 เรารักกัน" โครงการ "ม.33 เรารักกัน" จะช่วยเหลือแรงงานผู้ประกันตามมาตรา 33 จำนวน 9.2-9.5 ล้านคน จากทั้งหมด 11 ล้านคน ตามแนวทางดังนี้ แนวทางที่ 1 คนละ 3,500 บาท แนวทางที่ 2 คนละ 4,000 บาทแนวทางที่ 3 คนละ 4,500 บาท สำหรับคุณสมบัติเงื่อนไข “โครงการ ม.33 เรารักกัน”มีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ,มีเงินฝากในธนาคารไม่เกิน 500,000 บาท

 

+++ ข้อมูลสถานการณ์ความยากจนและความเหลื่อมล้ำปี 2562 ของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ชี้ว่า “คนชั้นกลาง” ที่เป็นผู้ยื่นภาษีส่วนใหญ่ ที่มีเงินได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี มีสัดส่วนสูงถึง 83.9% ของผู้ยื่นภาษีทั้งหมด แต่กลับเป็นกลุ่มที่ได้รับสิทธิหักลดหย่อนภาษีน้อยมาก สะท้อนจากส่วนแบ่งเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย 46.5% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด และเงินได้สุทธิเพียง 38.4% ของรายได้สุทธิในฐานภาษีทั้งหมด ขณะที่กลุ่ม “คนรวย” ที่สุดประมาณ 75,899 ราย มีส่วนแบ่งรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 12.8% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด และมีส่วนแบ่งเงินได้สุทธิอยู่ที่ 16.7% ของรายได้สุทธิในฐานภาษีทั้งหมด กลุ่มที่ใช้สิทธิประโยชน์จาการหักค่าใช้จ่ายที่มีสัดส่วนมากกว่า  50% ของเงินได้พึงประเมิน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีรายได้ 15 ล้านบาทต่อปีขึ้นไป

+++ ภายหลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือแรงงานในระบบประกันสังคมมาตรา 33 ออกมาหลายด้าน เช่น การใช้เงินจากกองทุนประกันสังคม 62% ในการช่วยเหลือแรงงานกว่า 9 แสนคน วงเงินกว่า 3 หมื่นล้านบาท แต่ก็เป็นการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบเฉพาะกลุ่ม จากคำสั่งปิดกิจการของคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัด ขณะที่การปรับลดการส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม เหลือร้อยละ 0.5% ตั้งแต่ ก.พ.-มี.ค. 2564 ก็เป็นเพียงมาตรการที่ออกมาบรรเทาค่าใช้จ่ายของลูกจ้างเท่านั้น

 

+++ การออกมาตรการเยียวยาโควิดระลอกใหม่ ภายใต้โครงการ ม.33 เรารักกันของรัฐบาล โดยกำหนดแนวทางการจ่ายเงินช่วยเหลือ ตั้งแต่คนละ 3,500 - 4,500 บาท พร้อมตัดประเด็นการกำหนดเพดานเงินเดือนต่อปีไม่เกิน 3 แสนบาทออก จึงนับเป็นขบวนรถไฟเยียวยา คนชั้นกลาง ผู้ที่ไม่ค่อยได้รับประโยชน์อะไรจากมาตรการของรัฐบาล