ตลาดหุ้น... ไม่กลัวโควิด

09 ธ.ค. 2563 | 02:00 น.

ตลาดหุ้น... ไม่กลัวโควิด : คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3634 หน้า 13 ระหว่างวันที่ 10-12 ธ.ค.2563 By…เจ๊เมาธ์

 

 

คงไม่มีอะไรที่สร้างแรงกดดันให้กับตลาดหุ้นไทยได้มากเท่าเรื่องคนไทยที่ติดเชื้อ Covid-19 จากการเดินทางไปทำงงานที่โรงแรม 1G1 เมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า แล้วได้กลับเข้ามาแพร่เชื้อในประเทศ ซึ่งเรื่องของเรื่องก็คือเมื่อมีการตรวจพบผู้ป่วยจากการติดเชื้อ Covid-19 จนทำให้โรงแรม 1G1 ถูกสั่งปิด คนไทยที่ทำงานอยู่จึงเริ่มขาดรายได้ทำให้ต้องเดินทางกลับเข้าหางานในประเทศทำอีกครั้ง แต่เมื่อเดินทางออกไปโดยการลักลอบออกไป...ขากลับจึงลักลอกกลับเช่นกัน การที่คนไทยเหล่านี้ไม่ต้องการเข้ารับการกักตัว 14 วัน เพียงเพราะการกักตัวทำให้เสียเวลา และขาดรายได้จากการทำงาน เมื่อกลุ่มคนเหล่านี้เข้าประเทศได้ก็ใช้ชีวิตเป็นปกติ แบบไร้มาตรการการป้องกัน จนทำให้เชื้อ Covid-19 แพร่ไปสู่บุคคลอื่น และกลายเป็นว่าความเห็นแก่ตัวของคนกลุ่มเล็กๆ ลุกลามไปจนธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และเชียงราย ซึ่งกำลังจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นต้องได้รับผลกระทบตามไปด้วย
 

อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นไทยก็ยังขยับขึ้นต่อได้อีก สาเหตุก็น่าจะมาจากกระแสข่าวเรื่องวัคซีนป้องกันไวรัส Covid-19 ที่มีหลายประเทศเริ่มฉีดให้กับประชาชนจนทำให้กระแสความตื่นตัว Covid-19 ในตลาดหุ้นลดน้อยลง ประกอบกับกระแสม็อบที่เริ่มๆ จะซาลงไป หวังว่าจะไม่มีเหตุแทรกซ้อนอะไรอีกนะคะ...ไปได้เรื่อยๆ แบบนี้ดีแล้วค่ะ

ในที่สุด บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง (SAK) หุ้นที่เจ๊เมาธ์บอกว่าดีนักดีหนาก็เข้าตลาดไปด้วยราคาเปิดตัวที่ 7.05 บาท (+90.54%) หุ้นตัวนี้มีหลายอย่างที่ดูเหมือนว่าจะเดินตามรอยหุ้นลีสซิ่งรุ่นพี่อย่าง บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) ทั้งในส่วนของทุนจดทะเบียนเริ่มต้นที่กว่าสองพันล้านบาท จำนวนสาขาเริ่มต้นที่มีจำนวนกว่าห้าร้อยสาขาเช่นเดียวกัน หรือแม้แต่ราคาเปิดตัวที่บวกไปเกือบๆ เท่าตัวเหมือนกัน ดังนั้นถ้าหุ้นตัวนี้จะสามารถไล่ราคาขึ้นไปอีกก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด ส่วนจะไปได้ไกลเทียบเท่ากับ MTC หรือไม่ เรื่องนี้เจ๊ก็ไม่กล้ารับประกันนะคะ ที่แน่ๆ คือผู้บริหารบอกว่าภายใน 2 ปีจะทำให้บริษัทโตให้ได้อีกเท่าตัวค่ะ
 

SUPER ของ “เสี่ยตั๊ม” จอมทรัพย์ โลจายะ ไล่ราคาขึ้นมาจนใกล้ที่จะเต็มบาทด้วยคำประกาศที่ว่าปี 64 รายได้ของบริษัทจะขยับขึ้นเป็น 10,000 ล้านบาท และในปี 65 จะขยับขึ้นเป็น 13,000 ล้านบาท ขณะที่ SUPER มีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอ ต่อการผลักดันการเติบโตให้คงอยู่ในระดับแข็งแกร่งต่อไปได้อีก 3 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี (SUPEREIF) ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับฐานะการเงินได้เป็นอย่างดี และการที่บริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการแล้วจำนวนมากในปัจจุบัน ช่วยให้บริษัทสามารถจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม เพื่อใช้เป็นทางเลือกในการระดมทุนสำหรับการขยายธุรกิจได้ คงต้องมาตามดูกันว่าถ้า SUPER กลายเป็นหุ้นเต็มบาทแล้วจะไล่ราคาสูงกว่าบาทได้อีกหรือไม่ หรือว่าหุ้นตัวนี้จะยังชอบที่จะไม่เต็มบาทต่อไป เด่วอีกไม่นานก็คงจะได้รู้กันค่ะ
 

DELTA ยังคงเป็นหุ้นที่ราคาวิ่งไปอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดราคาหุ้นขยับขึ้นไปชนแนวต้าน 300 บาท แต่ยังผ่านไปไม่ได้...แต่ไม่ได้หมายความว่าวันนี้ผ่านไปไม่ได้แล้วในอนาคตก็จะไปต่ออีกไม่ได้ เพียงแต่ว่าราคาแรงขนาดนี้มันไกลเกินกว่าสตอรี่เรื่องกำไรจากผลการดำเนินงานจะดันราคาหุ้นแล้วค่ะ สำหรับเจ๊เมาธ์มองว่าไม่ใช่เรื่องการแตกพาร์เพราะตอนนี้พาร์ก็เหลือแค่ 1 บาท ส่วนถ้าจะเป็นเรื่องอะไรก็คงต้องรอให้ผู้บริหารบริษัทมาเฉลยเอาเองนะคะ เจ๊เองก็อยากจะรุ้เหมือนกันค่ะ
 

หุ้นธนาคาร KBANK BBL SCB KTB และ TMB ยังเป็นหุ้นหลักที่ดันให้ดัชนีหุ้นไทยเข้าใกล้ 1,500 จุดเข้าไปทุกที ถ้าจะถามหา Story นาทีนี้ก็บอกตรงๆ ว่ายังไม่มีนะคะ แต่ถ้าจะถามสาเหตุก็เป็นเพราะทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาตลอดช่วงเดือนธันวา ส่วนถ้าจะถามว่าไปต่อได้อีกไกลแค่ไหน...ตอนนี้เจ๊ก็บอกได้แค่ว่าราคาหุ้นธนาคารเริ่มเห็นทางตัน เพราะราคาหุ้นหน้ากระดานเมื่อเทียบกับราคาหุ้นทางบัญชีเริ่มที่จะไม่ต่างกัน เผลอๆ อาจจะแพงกว่าด้วยซํ้าไป เพราะฉะนั้นถ้าสนใจแนะนำว่าให้เฝ้าจอดีๆ ด้วยค่ะ เจ๊เตือนแล้วนะคะ