ถุงมือยางแสนล้านอคส. ต้องไม่ลูบหน้าปะจมูก

25 ก.ย. 2563 | 12:30 น.

ถุงมือยางแสนล้านอคส. ต้องไม่ลูบหน้าปะจมูก : คอลัมน์อยู่บนภู ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3613 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 27-30 ก.ย.2563 โดย... กระบี่เดียวดาย

 

ถุงมือยางแสนล้านอคส.

ต้องไม่ลูบหน้าปะจมูก
 

     โครงการจัดซื้อถุงมือยาง 1.12 แสนล้านของ องค์การคลังสินค้า(อคส.) กับ บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ในสัญญาซื้อขาย 500 ล้านกล่อง ภายใต้รักษาการผู้อำนวยการอคส.ชื่อ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง องค์การคลังสินค้า (อคส.) ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเซ็นคำสั่งดึงตัว พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ไปปฏิบัติหน้าที่สำนักนายกรัฐมนตรี
 

     ล่าสุดบอร์ดอคส.ประชุมเร่งด่วน พร้อมกับมีมติระงับการจัดซื้อถุงมือยางและยกเลิกสัญญากับบริษัท โดยบอร์ดเห็นว่า สัญญาดังกล่าวเป็นโมฆะ เนื่องจาก พ.ต.อ.รุ่งโรจน์  ในฐานะรักษาแทน ผอ.อคส.ไม่มีอำนาจอนุมัติงบเกิน 25 ล้านบาท หากเกินกว่านั้นแต่ไม่เกิน 50 ล้านบาท ต้องเสนอประธานบอร์ด อคส. พิจารณา และหากเกิน 50 ล้านบาท ต้องเสนอบอร์ดพิจารณา

     ดีลนี้ต้องจ่ายเงินล่วงหน้า 2,000 ล้านบาท แต่ไม่ได้เสนอบอร์ดพิจารณา บอร์ดบอกว่าไม่เคยรับรู้ในเรื่องนี้ก่อน จึงให้อำนาจ อคส.แจ้งความกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อสอบเอาผิดและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ฐานฉ้อโกง ให้อายัดเงินในบัญชีที่ อคส.โอนให้บริษัทผู้ผลิตถุงมือยาง และตรวจสอบเส้นทางของเงินด้วย ถือว่าการดำเนินการของ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์เป็นการกระทำการลุแก่อำนาจโดยพลการ และยืนยันว่าการตัดสินใจของ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ไม่ผ่านที่ประชุมบอร์ด และไม่รายงาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ทราบ
 

     นอกจากนี้ผู้อำนวยการ อคส.คนใหม่ยังยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สอบสวนในเรื่องนี้ด้วยอีกทางหนึ่ง
 

     ดูจากรูปการของการจัดทำโครงการลักษณะนี้ มูลค่าโครงการขนาดนี้ ระดับ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ไม่มีความกล้าหาญเพียงพอหรอก เพราะดีลนี้มีจุดอ่อนช่องว่างเยอะมาก ทั้งในแง่อำนาจรักษาการ ผอ. ทั้งในแง่การเซ็นอนุมัตินำเงินออกจากอคส.จ่ายออกไปก่อน
 

     “การจ่ายเงินระดับ 2 พันล้าน อย่าว่าแต่อคส.เลย ซีอีโอเอกชนต้องขอบอร์ดเลย นี่มันรัฐวิสาหกิจซึ่งบริหารจัดการเงินหลวง มีสตง.ตรวจสอบบัญชี มีหลักเกณฑ์รัดกุม ถ้าพลาดนี่สุ่มเสี่ยงสูงในการเป็นคดีความอาญาในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐไปด้วย”
 

     พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ขึ้นมาเป็นรักษาการผู้อำนวยการ เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2562 ก่อนพ้นตำแหน่งเมื่อครม.ตั้งผู้อำนวยการคนใหม่เมื่อ 1 ก.ย.2563 รักษาการในตำแหน่งอยู่ประมาณ 11 เดือน จากก่อนหน้านี้อคส.ก็ร้างราผู้อำนวยการมานาน โดยมีแค่รักษาการมาโดยตลอด
 

     พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ขึ้นมาเป็นรักษาการผอ.ในคราวที่ พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง เป็นประธานบอร์ดองค์การคลังสินค้า ซึ่งเป็นมาตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.2558 ก่อนพ้นประธานบอร์ดไปเมื่อ 4 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา
 

     พล.ต.ท.ไกรบุญ ขึ้นเป็นประธานบอร์ดอคส.ในยุค คสช.และเป็นต่อเรื่อยมาจนถึงรัฐบาลเลือกตั้ง และมีพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาคุมกระทรวงพาณิชย์ ก็ยังยืนอยู่ในตำแหน่งได้อย่างยาวนาน เรียกว่าไม่ธรรมดาเปลี่ยนผ่านรัฐบาลแล้วยังเหนียว

     แน่นอนว่าไม่มีบิ้กบราเธอร์หนุนหลังไม่เหนียวขนาดนี้
 

     ต้องยอมรับว่าในยุคของประธานบอร์ดอคส.จากยุคคสช. ไม่มีใครในกระทรวงพาณิชย์ กล้าหือกับประธานบอร์ด แม้กระทั่งรัฐมนตรีพาณิชย์ หรือ รมช.ที่ผ่านไปคนแล้วคนเล่า
 

     อคส.ในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมาจึงมีความหวือหวาในการทำงาน ซึ่งบรรดาพ่อค้าโรงสี คนในแวดวงการค้าข้าวรู้กันเป็นอย่างดี
 

     ขณะที่ เกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต เข้ามาเป็น ผู้อำนวยการ อคส. คนใหม่ เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2563 เป็นการนำเสนอเข้าครม.โดย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
 

     เกรียงศักดิ์เข้ามาทำงาน จึงไล่บี้ย้อนหลังไปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นธรรมดาเมื่อรับงานแล้วต้องย้อนกลับไปดูว่าใครทำอะไรมาบ้าง ก็ไปโปะเชะเข้ากับดีลแสนล้านที่อคส.ต้องควักเงินจ่ายไปก่อน 2 พันล้าน
 

     ปฏิบัติสืบสาวราวเรื่อง ไล่รื้อค้นการปฎิบัติงานในอดีตจึงเกิดขึ้น
 

     แต่การไล่รื้อ ต้องไม่กระทำแบบลูบหน้าปะจมูก !!
 

     และต้องไม่กระทำให้เห็นเพียงดีลใหญ่ๆ แล้วก็จบลงหรือเงียบหายไปกับสายลม
 

     แต่ต้องทำให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงาน การหย่อนยานในหน้าที่ของอคส.ที่ผ่านมา พร้อมขันน็อตการทำงานใหม่
 

     ทำความจริงให้ประจักษ์และอย่าหวั่นไหวไปกับอิทธิพลอำนาจที่ยืนเหยืออคส.
 

     ปกป้องเงินหลวงให้ครบทุกบาททุกสตางค์
 

     จุรินทร์ ก็ต้องสนับสนุนอย่างแข็งขันในการทำความจริงให้ปรากฎ
 

     สนับสนุนให้ผอ.อคส.คนใหม่ สู้กับเงาทะมึนที่ทาบทับอคส.!!