ปรับครม. ยี้-ไม่ยี้ “บิ๊กตู่”รับไปเต็มๆ

23 ก.ค. 2563 | 04:09 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3594 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 23-25 ก.ค.63 โดย...กาแฟขม

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3594 วันที่ 23-25 ก.ค.2563 ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่เจือจางสร่างซาลงไปมาก แต่ยังไม่สิ้นฤทธิ์ โดยเฉพาะเชื้อที่มาจากต่างประเทศ ลุ้นกันแบบใจหายใจคว่ำว่าขออย่าให้กลับมาระบาดรอบ 2 ทำให้วันก่อนมีทหารอียิปต์หลุดไป ก็ตื่นเต้นหวาดเสียวกันทั้งระยอง ลามไปจังหวัดที่คนไปเที่ยวระยองระทึกตามไปด้วย และยังคงตระหนกกรณีวีไอพีทั้งหลายที่ข้ามขั้นตอนการกักตัวออกมาได้ เสียงระงมรอบทิศจึงพุ่งเป้าไปที่ศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศบค. ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

*****
ที่ไม่ตระหนกตกอกตกใจกับโรคโควิด-19 แต่อย่างใดต้องกลุ่มนี้ เยาวชนปลดแอก  Free YOUTH และ กลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) พร้อมด้วยประชาชนส่วนหนึ่ง มาตามนัดพรึ่บ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล 3 เรื่อง ยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน และร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ที่ไม่สบายใจและรับไม่ได้สำหรับสังคมไทย คือ การแอบแฝงพุ่งเป้าไปยังสถาบันเบื้องสูง ซึ่งคนไทย สังคมไทย ยึดเหนี่ยวเป็นศูนย์รวมจิตใจมาช้านาน

*****ยุทธการไล่ลุงเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นระบบ ชุมนุมแล้วหยุด หยุดแล้วชุมนุมใหม่ วูบๆวาบๆ หรือที่เขาเรียกว่าแฟลชม็อบ ตรงนั้นที ตรงนี้ครั้ง ในกทม.ขยายไปต่างจังหวัด สะสมกำลัง สะสมประเด็นสร้างความร้อนแรงไปเรื่อย หามุมภาพ หาประเด็นขยายผลในโซเชียล ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง มิอาจปรามาสว่าเป็นเพียงเสมอเหมือนแค่ม็อบผ้าอ้อม ไม่เท่าไหร่ มิอาจมองเช่นนั้นเด็ดขาด การสะสมกำลังฟูมฟักไปเรื่อยๆ บนท้องถนนในช่วงกว่า 10 ปี ที่ผ่านมา ก่อนนำไปสู่ความรุนแรงบาดเจ็บล้มตายบาดแผลฝังลึกทุกวันนี้ ก็เริ่มจากกลุ่มเล็กๆ มิใช่หรือ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ปรับครม.’ กับสัญญาณเกียร์ว่าง
ปรับครม.ดัน‘บิ๊กป้อม’มท.1 เคาะ‘สุริยะ’คุมพลังงาน ‘อนุชา-สุชาติ-นฤมล’รมต.
ปรับครม.เพื่อใคร

 

 

*****จะไล่ลุงก็ไล่ไป อย่าให้ลามปามเลยเถิด ศึกษาประวัติศาสตร์กันให้ลึกซึ้ง ใช้สิทธิกันพอให้ควรแก่เหตุ อย่าล้ำเส้นไปไกล ประเดี๋ยวจะกู่ไม่กลับ แทนที่จะได้แนวร่วมไล่รัฐ แก้รัฐธรรมนูญ ยุบสภา กลับหดหาย เตือนกันไว้ตรงนี้ หากเคลื่อนไหวเกินธง จะลงกันไม่สวย ไปกันไม่เป็น พ่อ-แม่ ผู้ปกครองต้องดูแลอบรมบุตร-หลาน อย่าให้ตกเป็นเหยื่อสถานการณ์และผู้ที่แอบแฝง(ถ้ามี)

*****ตั้งท่าไม่น่าสวยสำหรับครม. “ประยุทธ์ 2/2” หลังไล่ “4 กุมาร” พ้นพรรค พ้นครม.ด้วยเหตุนักการเมืองแย่งชิงโควต้า แย่งชิงตำแหน่งกันหนักมือ โดยเฉพาะที่กระทรวงพลังงาน เปิดหน้าซัดกันตรงๆ แบบไม่มีกั๊กแล้ว เมื่อ ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพปชร.บอกเก้าอี้นี้เป็นของพรรคเหมาะสำหรับ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ใฝ่ฝันครอบครองมานานมากกว่าไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีตซีอีโอปตท. ต้องติดตามหวยไปออกที่ใคร

*****ปัญหาใหญ่ของการตั้งครม.ประยุทธ์ 2/2 อยู่ที่ ขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงาน ที่ทำงานแบบที่มีความสามารถก็ไม่อยากมา ด้วยเหตุติดระบบปัญหากังวลวิตกการเมือง นักการเมือง ไม่อยากเข้ามายุ่งให้เปลืองตัวมัวหมอง เข้ามาแล้วไม่สนองการเมืองพวกเขี้ยวลากดินทั้งหลาย จะโดนไล่ขย่ม เขย่า ทำงานไม่ได้หรือไม่เป็นอันทำงาน เหมือนพวก “4 กุมาร” ที่ลงแรงแข็งขัน แต่สุดท้ายก็ถูกไล่ส่งแบบไม่มีเยื่อใย ใครจะหาญกล้าเอาคอมาพาดเขียง เป็นหนังหน้าไฟ หรือเป็นแค่หินรองรับเท้า

*****พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มิอาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ หาก “ปรับครม.” ออกมาแล้วเต็มไปด้วยพวกที่สังคมร้องยี้ ไม่ได้ดีกว่าเดิม แล้วจะมาบอกให้เชื่อมั่นในตัวผมๆ คงไม่ได้อีกแล้ว เมื่อไม่ยอมสยบคลื่นลมในพรรคแกนนำพปชร. ก็นำมาซึ่งความวุ่นวายยุ่งยากในวันนี้ เมื่อปล่อยพี่ใหญ่ว่าไปๆ ก็ทำให้หนทางตัวเองในการบริหารประเทศจำกัดแคบลง ผสมกับหลากหลายปัญหาที่พรั่งพรู ทั้งเศรษฐกิจปากท้องจากพิษโควิด-19 ผสานผสมการเมือง อาจทำให้ความเชื่อมั่นและเสถียรภาพรัฐบาลลุงตู่สั่นคลอนหนักขึ้น จะอย่างไรก็แล้วแต่ ต้องหาทางออกกันในระบบประชาธิปไตย ไม่มีใครประสงค์ให้หันเหไปทางอื่นที่นอกเหนือจากนี้กันอีกแล้วกระมัง พระเดช พระคุณ ฯพณฯ ท่านทั้งหลาย...