อดทนอีก 1 เดือน พ.ร.ก.ฉุกเฉินคุมโควิด-19

26 มิ.ย. 2563 | 12:45 น.

คอลัมน์อยู่บนภู ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3587 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย. - 1 ก.ค.2563 โดย... กระบี่เดียวดาย

อดทนอีก 1 เดือน

พ.ร.ก.ฉุกเฉินคุมโควิด-19

 

     วันจันทร์ที่ 29 มิ.ย.2563 นี้ ทางศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินโรคระบาดโควิด-19 หรือศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน จะมีการพิจารณายืดอายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือนสิ้นสุดเดือนก.ค.

     เป็นไปตามข้อเสนอของ คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ที่มี พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นประธาน โดยเหตุผลที่ต้องเสนออายุเพราะกิจกรรมที่ได้รับการผ่อนคลายในระยะที่ 5 มีความล่อแหลมต่อการระบาดของโควิด-19 มากที่สุด

     “เราให้ความสำคัญในการป้องกัน จึงจำเป็นต้องใช้พรก.ฉุกเฉินต่อไป หากไม่มี พรก.ฉุกเฉิน ต้องใช้กฎหมายถึง 5 ฉบับมาแทนที่ แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะมีประสิทธิภาพเท่า ซึ่งกลยุทธ์ในการป้องกันโควิดต้องควบคุมไม่ให้มีการนำโรคจากต่างประเทศเข้ามาซึ่งประสิทธิภาพ “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” เป็นกลไกสำคัญ เมื่อจะผ่อนคลายกิจกรรมที่ล่อแหลม จึงต้องคงเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพนี้ต่อไปและไม่มีนัยทางการเมือง”

     อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้มีการจับกุมกุมอาวุธสงครามจำนวนมาก ที่อ.แม่สอด จ.ตาก โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้น้ำหนักไปที่ประเด็นการเมืองและการเตรียมการเพื่อสร้างสถานการณ์การเมืองเป็นหลัก

     มีการวิเคราะห์ฟันธงไปแบบไม่ต้องฟังรายละเอียดพร้อมโหมกระพือว่าเป็นการจัดฉาก เพื่อต่ออายุพ.ร.ก. ฉุกเฉิน มีธงกันไว้แล้วว่าหลังจากนี้จะมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่หนักขึ้น จึงต้องต่ออายุออกไป

     ทั้งที่การเคลื่อนไหวหรือชุมนุมทางการเมืองนั้นก็มีกฎหมายดูแลเฉพาะ ข่าวจับกุมอาวุธสงครามจึงถูกผูกโยงผสมผสาน เรื่องการเมือง เรื่องต่ออายุพ.ร.ก.ทันที

     เพราะบังเอิญไปสอดรับเข้ากับท่าทีกองทัพตามรายงานข่าวที่ออกมาอาวุธอย่าง M-79 มีประวัติในการก่อเหตุทางการเมืองน้ำหนักจึงถูกเทไปทางต้องต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

     ขณะที่พรรคการเมืองอย่าง “ก้าวไกล” ออกมาแถลงคัดค้านการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปสิ้นเดือนก.ค. โดยให้รัฐบาลฟังความคิดเห็นของประชาชนและความต้องการที่แท้จริงของประชาชนยุติการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและมุ่งเน้นการฟื้นฟูชีวิตและเศรษฐกิจของประชาชน

     “พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องขอเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศ ที่ไม่เห็นด้วยกับการขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ร่วมกันแสดงออกทางการเมือง ตามสิทธิเสรีภาพ เพื่อช่วยกันกดดันรัฐบาลให้ยุติการลุแก่อำนาจและมุ่งทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง” ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล

     ขณะที่ นันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ เห็นว่า 31 วันที่เมืองไทยปลอดคนติดเชื้อโควิดจากภายในประเทศ หรือคนติดเชื้อเป็นศูนย์ มันน่าดีใจ ภูมิใจ ต่างชาติก็ชื่นชม และปฏิเสธไม่ได้ว่า ความสำเร็จของการจัดการโควิดนั้นพ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีบทบาทอย่างมากในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาด คิดไม่ออกเลยว่า ถ้าไม่ตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉิน คนไทยจะติดเชื้อโควิดกี่หมื่นหรือกี่แสนคนวันนี้สถานการณ์ในไทยดีขึ้น มีคนคัดค้านให้ยกเลิกการประกาศใช้พรก.ฉุกเฉิน อ้างว่าเป็นกฎหมายมีความมุ่งหมายทางการเมือง ไม่ให้ฝ่ายค้านและนักกิจกรรม เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล

     “เอาจริงๆนักเคลื่อนไหวไม่ได้กลัวพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตั้งแต่ประกาศใช้ก็ยังเห็นเคลื่อนไหวอยู่”

     อันที่จริงการประกาศยืดอายุพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ไม่เห็นว่าจะกระทบสิทธิเสรีภาพทางการเมืองจนเกินเหตุแต่อย่างใด ถ้าการแสดงออก การเคลื่อนไหวทางการเมืองสุจริต อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น ไม่ก่อเหตุอาชญากรรมร้ายแรงเพื่อเป้าประสงค์ทางการเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องของแกนนำหรือพวกหัวโจกขาโจ๋ทางการเมืองที่รู้สึกว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นภัยคุกคามพวกเขามากกว่าชาวบ้านร้านตลาดแบบเราๆ

     อย่างไรก็ดีฝ่ายรัฐผู้กุมอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ต้องขีดวงการใช้อำนาจเพื่อจำกัดควบคุมโรคตามประกาศเท่านั้น ไม่ลุแก่อำนาจ ไปดำเนินการเลเพลาดพาดไปในเรื่องอื่นหรือใช้ไปในทางการเมือง ความมั่นคง

     หยุดๆ กันไปบ้างพวกชนวนเชื้อปะทุ ปะทะทั้งหลาย เอาให้เคลียร์ 100% เรื่องโควิดกันก่อน

     ถ้าจะอดทนไปอีกเดือน เรื่องพ.ร.ก.นี่ชาวบ้านอย่างเราๆ คงไม่เป็นไรกระมัง ..

​​​