เปิด 10 ภารกิจประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยป้ายแดงฟื้น SME ทั่วประเทศ

26 มี.ค. 2564 | 02:55 น.

เปิด 10 ภารกิจประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยป้ายแดงฟื้น SME ทั่วประเทศ ระบุพร้อมร่วมมือทุกภาคส่วน

นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยหลังรับตำแหน่งประธานสมาพันธ์เอส เอ็มอีไทยว่า จะดำเนินการขับเคลื่อน 10 ภารกิจให้ประสบความสำเร็จ  เพื่อให้เอสเอ็มอี (SME) สามารถทำธุรกิจต่อไปได้ โดย ภารกิจดังกล่าวได้แบ่งเป็น 5 ด้านหลักคือ ด้านความรู้  ด้านทุน  ด้านการตลาด ด้านเครือข่าย และด้านกระบอกเสียง SMEs

              1.ด้านความรู้  ซึ่งจะมุ่งเน้นการสร้างเครือข่าย SME สร้างสรรค์ และส่งเสริม SME  ให้สร้างนวัตกรรมและความเป็นผู้ประกอบการ  สามารถเชื่อมโยงทุนนวัตกรรม SME  หรืองานวิจัย เชิงพาณิชย์สู่ประโยชน์ของSME  

              2.ด้านทุนซึ่งมีหน้าที่ในการหาช่องทางแหล่งทุน SME ต้นทุนต่ำให้กับธุรกิจSME  ทำ Pre-Scoring  ตรวจสอบสุขภาพธุรกิจ  ประเมินขีดความสามารถทางธุรกิจ รวมไปถึงการให้ความรู้ใน เรื่องการจัดทำมาตรฐานบัญชีเดียว 

              3.เรื่องการตลาด ซึ่งมีสามภารกิจ สำคัญคือ ผลักดันแพลตฟอร์มออนไลน์ Star Market ที่ได้รับการสนับสนุนจากทางสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อให้ผู้ประกอบการได้นำสินค้าออกขายบนโลกออนไลน์ 

              4.ของดี SME ไทย เป็นการค้นหาสินค้าและบริการ SME จากทั้ง 77จังหวัดเพื่อเป็นการช่วยเหลือและสนับสนุนสินค้าและบริการ SME

5.SME Thai Awards เป็น การคัดสรรสินค้าดี และบริการ มีคุณภาพของแต่ละจังหวัดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เชิดชู ยกย่องผู้ประกอบการ Start up และ SME Thai ที่มีศักยภาพในการปรับเปลี่ยนธุรกิจให้สอดคล้องกับตลาดซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดี

              6.สมาพันธ์ยังได้ดำเนินการ 6 e ซึ่งเป็นการพัฒนานวัตกรรม 6 ด้าน ดังนี้ e-Member e-Wallet e-Payment e- Commerce  e- Catalog e-Event เพื่อ สนับสนุนและส่งเสริมสมาชิกที่มีนับแสนคนจากทั่วประเทศให้สามารถค้าขายบนโลกออนไลน์ได้ทั้งระบบ

              7.ด้านเครือข่ายซึ่งมีภารกิจ สำคัญ 3 เรื่อง คือ Young SME Thai ซึ่งเป็นการสร้าง เครือข่ายร่วมกับมหาวิทยาลัย สถาบันวิทยาลัยชุมชน โรงเรียน กศน. เพื่อสร้างงานและส่งเสริมการสร้างผู้ประกอบการใหม่ ให้กับน้องๆที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเอง

8.การขยายฐานสมาชิก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในการสร้างเครือข่ายลงในแต่ละอำเภอเพื่อที่จะส่งผ่านข่าวสาร ความช่วยเหลือไปยังผู้ประกอบการ SME ในแต่ละอำเภอซึ่งตอนนี้ได้พัฒนาการรับสมัครสมาชิกโดยใช้ระบบ e-Member ซึ่งสะดวก รวดเร็วและไม่มีค่าใช้จ่าย

9.อาชีวะปลามังกร คือการพัฒนาน้อง อาชีวะซึ่งเป็นกำลัง สำคัญของประเทศในยุคปัจจุบันให้มีความเป็นนวัตกร ตามแนวทางที่ว่า นวัตกรอาชีวะ สร้างเศรษฐกิจชาติ

              10.กระบอกเสียง mSMEs ซึ่งภารกิจ สำคัญ 2 เรื่องคือ ทนายอาสาSME ซึ่งจะมีหน้าที่ ให้ความรู้ทางกฎหมายให้กับ SME เสนอแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อ SME  ภารกิจที่สองคือ สร้างเครือข่ายสื่อมวลชน mSMEs เพราะ พี่น้องสื่อมวลชนคือองค์กร สำคัญที่จะเป็นกระบอกเสียงนำพาข่าวสาร ของSME ไทย ไปสู่หน่วยงานภาครัฐเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อการแก้ไขปัญหาบนความเป็นจริง

              นายแสงชัยกล่าวต่อไปอีกว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลให้GDP SME ของ ประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ SME ซึ่งเป็นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศเป็นอย่างมาก  ด้วยเหตุนี้สมาพันธ์SME ไทยในฐานะที่เป็นองค์กรตัวแทนภาคเอกชนของ SME ทั่วประเทศจึงต้องร่วมมือ กับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคมอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างระบบนิเวศน์ธุรกิจเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ฐานรากด้วยการขับเคลื่อนธุรกิจ SME ให้เติบโตภายใต้สโลแกน อยู่รอด อยู่เป็น อยู่เย็น และอยู่ยาว

              “สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยได้นิยามคำว่าอยู่รอดหมายถึง การประคองธุรกิจให้สามารถอยู่ได้ในยุควิกฤต เศรษฐกิจแบบนี้โดยการช่วยเหลือให้เขาได้เข้าถึงมาตรการความช่วยเหลือของรัฐและแนวทางต่างๆที่สมาพันธ์ จัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเพื่อให้พ้นจากวิกฤตที่เกิดขึ้น ส่วนคำว่าอยู่เป็นคือ สามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงโดยใช้ความคิดสร้างสรรค์และนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาสร้างโอกาสใหม่ๆ ทาง ธุรกิจหรือเพื่อยกระดับขีดความสามารถให้สูงขึ้น”

และอยู่เย็นคือการไม่ทำสิ่งใดเกินตัว พอประมาณ มีเหตุผล และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับธุรกิจโดยน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาล 9 มาใช้ดำเนินธุรกิจ สุดท้ายคืออยู่ยาว หมายถึงความสามารถในการพึ่งพาตนเอง โดยไม่ผิดต่อหลักจริยธรรมและคุณธรรม ที่  สำคัญต้องมีกัลยาณมิตรที่ดีมาเป็นที่ปรึกษาให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ

              “สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ยินดีที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :