เพิ่ม thansettakij
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
หลังจากรัฐบาลกลางจีน มีคำสั่งปิดเมืองอู่ฮั่น เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสสายพันธ์ใหม่โคโรนา และปิดสนามบินนานาชาติอู่ฮั่น ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2563 จากการตรวจสอบพบว่ามีสายการบินทั้งของไทยและจีน ที่มีเที่ยวบินตรงจากเมืองอู่ฮั่นมายังประเทศไทยจำนวน 11 สายการบิน โดยบินลงใน 5 สนามบินหลักที่ได้รับผลกระทบต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดทันที ซึ่งประกอบด้วย
1.สนามบินสุวรรณภูมิ มีสายการบิน China Southern Airlines ทำการบิน 3 เที่ยวบินต่อวัน
2. สนามบินดอนเมือง มีสายการบิน Thai Air Asia ทำการบิน 2 เที่ยวบินต่อวัน
3. สนามบินภูเก็ต มีสายการบิน Thai Air Asia ทำการบิน 2 เที่ยวบินต่อวัน และสายการบิน China Southern Airlines ทำการบินเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีน (10 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ 2563)
4. สนามบินเชียงใหม่ มีสายการบิน Air China ทำการบิน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (วันอังคาร วันศุกร์ และวันอาทิตย์)
5. สนามบินกระบี่ มีสายการบินตรงจากเมืองอู่ฮั่น เที่ยวบิน Mu2639 โดยสายการบิน China Eastern airline ทำการบิน 1 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งจะเริ่มเที่ยวบินแรก เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2563 โดยมีผู้โดยสารที่เดินทางมายังจังหวัดกระบี่ ประมาณ 168 คน ต่อเที่ยว
ด้านการบินไทยไม่มีเที่ยวบินไปยังเมืองอู่ฮั่น แต่เพื่อความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจแก่ผู้โดยสาร เรืออากาศเอก ปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัยความมั่นคงและมาตรฐานการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เผยว่า บริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และได้ออกมาตรการในการป้องกันโรคระบาดดังกล่าว โดยคำนึงถึงการให้บริการและความปลอดภัยสูงสุด ดังนี้
1. มาตรการคัดกรองในการตรวจรับผู้โดยสารและการบริการภาคพื้น
2. มาตรการในการให้บริการบนเครื่องบิน
3. มาตรการในการจัดเตรียมอากาศยาน และฆ่าเชื้อโรค
4. มาตรการทำความสะอาดภายในอากาศยาน
5. มาตรการป้องกันและเฝ้าระวังสุขอนามัยของพนักงาน
6. มาตรการการรับขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์
7. มาตรการด้านโภชนาการ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เน้นย้ำให้ผู้ปฏิบัติงานปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะให้ผู้ปฏิบัติงานดูแลตนเอง อาทิ สวมหน้ากากอนามัย และถุงมือ รวมทั้งคอยสังเกตอาการผู้โดยสารในระหว่างเที่ยวบินอีกด้วย
ทั้งนี้ การบินไทยได้ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามสถานการณ์และมาตรการต่างๆ ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิดต่อไป