เอกชน-รัฐเร่งออกมาตรการ ควบคุมโควิดในโรงาน

11 มิ.ย. 2564 | 09:33 น.

รัฐผนึกเอกชน ออกมาตรการ  ป้องกัน-ควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในโรงงาน

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าได้หารือร่วมกับหน่วยงานรัฐและเอกชน เรื่องมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด19 ในสถานประกอบกิจการโรงงานเพื่อยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในโรงงาน โดยที่ประชุมได้หารือถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในสถานประกอบการกิจการโรงงาน มีจำนวนโรงงานที่พบการแพร่ระบาด 149 แห่ง มีผู้ติดเชื้อ 7,777 คน ในพื้นที่ 21 จังหวัดทั่วประเทศ   (ข้อมูลณวันที่10 มิ.ย.2564)

เอกชน-รัฐเร่งออกมาตรการ  ควบคุมโควิดในโรงาน

 

เอกชน-รัฐเร่งออกมาตรการ  ควบคุมโควิดในโรงาน

ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รายงานความคืบหน้าการออกมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในโรงงาน อาทิ การขอความร่วมมือสถานประกอบกิจการโรงงานประเมินตนเองผ่าน Platform Thai Stop Covid Plus และ Thai Save Thai โดยมีโรงงานเข้าสู่ระบบ จำนวน 6,259 โรง (คิดเป็นร้อยละ 10 จากโรงงานทั้งหมด)   อย่างไรก็ตามได้วางแผนเพื่อเตรียมความพร้อมเป็นศูนย์กระจายวัคซีนในสถานประกอบกิจการโรงงาน ทั้งในและนอกโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ จำนวน 27 แห่ง โดยเบื้องต้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นชอบแล้ว จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมสินสาคร นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ (ชลบุรี) นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด สวนอุตสาหกรรมบางกะดี และโรงไฟฟ้าแม่เมาะ อีกทั้ง อยู่ระหว่างขอความเห็นชอบ 21 แห่ง เพื่อจะขอ ศบค.พิจารณาจัดสรรวัคซีนให้กับศูนย์ฉีดวัคซีน เป็นต้น โดยเน้นความร่วมมือกับกระทรวงแรงงาน ผ่านการฉีดวัคซีนให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ของสำนักงานประกันสังคม

 

เอกชน-รัฐเร่งออกมาตรการ  ควบคุมโควิดในโรงาน

“ แนวทางการขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่ได้มีการหารือกันนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เนื่องจากคนที่เกี่ยวข้องในภาคอุตสาหกรรมนั้นมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งหอการค้าฯ พร้อมสนับสนุนภาครัฐอย่างเต็มที่ ในมาตรการป้องกัน การเฝ้าระวัง รวมถึงการควบคุมการระบาด และยินดีเป็นจุดเชื่อมโยง ประสานความร่วมมือไปยังเครือข่ายต่างๆ ทั้ง หอการค้าจังหวัด และ สมาคมการค้า ให้เข้ามามีส่วนร่วมขับเคลื่อนตามแนวทางที่ได้มีการหารือกันไว้”