นบข.เพิ่มวงเงิน 4.8 หมื่นล้าน รับราคาข้าวร่วงหนัก
“บิ๊กตู่” ใส่เกียร์เดินหน้าอุ้มชาวนาไม่ยั้ง รับราคาข้าวร่วง เพิ่มวงเงินใหม่ เป็น 4.8 หมื่นล้านบาท เล็งสัปดาห์หน้าเคาะราคากลางชดเชยประกันรายได้ “ข้าวหอมมะลิ-ข้าวเหนียว” จ่ายบานไม่ต่ำกว่าตันละ 3,000 บาท
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 นายสุเทพ คงมาก นายกกิตติมศักดิ์สมาคมเกษตรกรและชาวนาไทยและกรรมการในคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ผลจากราคาข้าวปรับตัวลดลงมาเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวลดลง การบริโภคในประเทศลดลง ค่าเงินบาทแข็ง และการส่งออกชะลอตัว จึงทำให้ราคาข้าวมีการปรับลดลงมา จากราคาประกันรายได้ ปี 2 ซึ่งได้มีการกำหนดราคาและปริมาณประกันรายได้เกษตรกรเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาประกันตันละ 15,000 บาท ปริมาณไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคาประกันตันละ 14,000 บาท ปริมาณไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ราคาประกันตันละ 10,000 บาท ปริมาณไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคาประกันตันละ 11,000 บาท ปริมาณไม่เกิน 25 ตัน ข้าวเปลือกเหนียว ราคาประกันตันละ 12,000 บาท ปริมาณไม่เกิน 16 ตัน ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 - พฤษภาคม 2564
สำหรับสถานการณ์ข้าวเปลือกแต่ละชนิดมีการปรับตัวลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ความชื้นไม่เกิน15 ราคา ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2563 ราคาอยู่ที่ 11,500-13,000 บาท ข้าวเปลือกเหนียว ราคา 10,000-11,200 บาท ข้าวเปลือกเจ้า5% ราคา 8,500-9,400 บาท และราคาข้าวเปลือกปทุมธานี1 ราคา 9,800-10,200 บาท (ดูตารางข้างล่างประกอบ)
“ในรอบแรกที่จะมีการเคาะราคาคาดว่าจะเป็นสัปดาห์หน้า ข้าวทุกชนิดจะได้รับการชดเชยรายได้ เพราะราคาตกต่ำทุกตัว โดยเฉพาะข้าวเหนียวและข้าวหอมมะลิ คาดว่าชาวนาจะได้รับชดเชยไม่ต่ำกว่า 3,000 บาทต่อตัน จากราคาดังกล่าวนี้ ทาง คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นั่งเป็นประธาน จึงได้มีมติเห็นชอบเพิ่งกรอบวงเงินโครงการเพิ่มขึ้นจาก 23,495.71 ล้านบาท เป็น 48,828.57 ล้านบาท โดยมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ประสานและทำความตกลงสำนักงบประมาณกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา ก่อนนำเสนอ ครม.เพื่อขอจัดสรรวงเงินเพิ่มเติม ให้เป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป”
อนึ่ง โครงการประกันรายได้ข้าว ปี2
