“จุรินทร์”ฟุ้งมาตรการรัฐได้ผล ดันราคายาง-ปาล์มพุ่ง

02 พ.ย. 2563 | 09:15 น.

“จุรินทร์”ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน ยันประกันรายได้ยางพาราและข้าว เข้า ครม. วันที่ 3 พ.ย.นี้ ย้ำมาตรการรัฐบาลได้ผลดี และความต้องการตลาดโลกเพิ่ม ดันราคายางพุ่งถึงกิโลละ 70-80 บาทแล้ว ส่วนปาล์มน้ำมันขึ้นแรงไม่แพ้กัน 6-7 บาท/กก. เกินเพดานประกันรายได้แล้ว

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการลงพื้นที่พบปะเกษตรกรตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางพารา และชาวสวนปาล์มน้ำมัน ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงกลุ่มท่าอยู่ ต.ท่าอยู่ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ว่า โครงการประกันรายได้ข้าวและยางพารา จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 3 พ.ย.2563 เพื่อเป็นตัวช่วยให้กับเกษตรกร และถือเป็นนโยบายรัฐบาล ที่จะต้องดำเนินการต่อ หลังจากที่โครงการประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้ผ่านการพิจารณาจาก ครม. ไปก่อนหน้านี้แล้ว

“จุรินทร์”ฟุ้งมาตรการรัฐได้ผล  ดันราคายาง-ปาล์มพุ่ง

         ทั้งนี้ สำหรับยางพารา ถือเป็นข่าวดี เพราะราคายางพาราได้ปรับตัวสูงขึ้นถึงกิโลกรัม (กก.) ละ 70-80 บาท เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว และยอดส่งทางรถยนต์เริ่มส่งออกได้มากขึ้น ความต้องการยางก็เริ่มมากขึ้น และสถานการณ์โควิด-19 ก็ทำให้ความต้องการถุงมือยางธรรมชาติสูงขึ้น

 

ขณะเดียวกัน ยังได้รับผลดีจากมาตรการของรัฐบาล ที่ร่วมกันดำเนินการโดยกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการยางแห่งประเทศไทย กรมการค้าภายใน และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่ได้ช่วยกันส่งเสริมการส่งออกยางพาราให้ต่างประเทศได้ 500,000 ตัน มูลค่า 50,000 ล้านบาท รวมทั้งมาตรการอื่นๆ ของรัฐบาลที่นำมาช่วยรักษาระดับเสถียรภาพราคายาง เช่น การตรวจสอบสต๊อกยางพารา โดยกรมการค้าภายใน เพื่อเร่งรัดให้พ่อค้าซื้อยางพารามากขึ้น และให้สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ตรวจตราดูว่ามีการฮั้วบิดเบือนราคาตลาดหรือไม่ 

ส่วนปาล์มน้ำมัน ขณะนี้ราคาก็ปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาขยับขึ้นไปกก.ละ 6-7 บาทแล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการช่วยเหลือราคาปาล์มน้ำมัน โดยการใช้มาตรการเร่งรัดการส่งออกน้ำมันปาล์มโดยให้เงินอุดหนุน กก. ละ 2 บาท โดยม.ค.-ก.ย.2563 ส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 400% และมาตรการอื่นๆ เช่น ส่งเสริมการใช้น้ำมัน B10 และให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นำน้ำมันปาล์มไปผลิตกระแสไฟฟ้า และจำกัดการนำเข้าและนำผ่านน้ำมันปาล์ม โดยสามารถนำเข้าได้ทางเดียว คือ ด่านคลองเตย

 

ขณะนี้ราคายางพาราอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ปิดอยู่ที่ 75 บาทต่อกก. และเมื่อหลายวันก่อนเคยขึ้นไปปิดที่ 80 บาทต่อกก. ส่วนราคาผลปาล์ม ณ วันที่ 2 พ.ย.2563 ที่จ.สุราษฎร์ธานี ราคากก.ละ 6.80-7.20 บาท กระบี่ กก.ละ 6.45-7.20 บาท ชุมพร กก.ละ 6.50-7.25 บาท และพังงา กก.ละ  6.75-7.00 บาท โดยเป็นราคาที่สูงขึ้นทะลุราคาประกันรายได้ที่กำหนดไว้ที่ กก.ละ 4 บาท