“สนพ.”ชี้พายุในอ่าวเม็กซิโกส่งราคาน้ำมันดิบผันผวนในกรอบแคบ

16 ต.ค. 2563 | 05:20 น.

“สนพ.” เผยราคาน้ำมันดิบผันผวนในกรอบแคบ หลังพายุเฮอริเคนเดลต้าพัดถล่มอ่าวเม็กซิโก

นายวัฒนพงษ์  คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า สนพ. คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบผันผวนในกรอบแคบ โดยมีปัจจัยหนุนราคาน้ำมันจากพายุเฮอริเคนเดลต้าที่พัดถล่มอ่าวเม็กซิโก ส่งผลให้แท่นขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติหลายแห่งหยุดดำเนินการชั่วคราว การที่ซาอุดิ อารามโค ของซาอุดีอาระเบียประกาศเพิ่มราคาขาย OSP (Official selling price) น้ำมันดิบของภูมิภาคเอเชียเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น ตลาดคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันโลกเริ่มมีทิศทางค่อยๆ ฟื้นตัว

ทั้งนี้ สอดคล้องกับตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีน อาทิ ยอดส่งออกในเดือนกันยายนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีอุปทานส่วนเกินในตลาดที่ถือว่าอยู่ในระดับสูง หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกเดือนกันยายนเพิ่มสูงขึ้น 0.16 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเฉพาะจากประเทศลิเบียที่กลับมาผลิตและส่งออกน้ำมันอีกครั้ง มีรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ต้นเดือนตุลาคมที่ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ยังเป็นปัจจัยที่ส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมัน

ส่วนราคา Spot LNG เฉลี่ยในช่วง 28 กันยายน – 2 ตุลาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 0.305 เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู มาอยู่ที่ระดับ 5.142เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู เนื่องจาก มีความต้องการ LNG เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชียเหนือที่เตรียมการสำรอง LNG สำหรับฤดูหนาวที่จะถึงนี้

“สนพ.”ชี้พายุในอ่าวเม็กซิโกส่งราคาน้ำมันดิบผันผวนในกรอบแคบ

สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันโลก: 5 – 11 ตุลาคม 63 นั้น ราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เท็กซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 40.91 และ 40.33 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.24 และ 1.15 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล  โดยราคาน้ำมันดิบดีดขึ้น หลังทำเนียบขาวแจ้งข่าวว่าอาการป่วยจากโควิด-19 ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มดีขึ้น ส่งผลให้ตลาดคลายความกังวลในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 63

รวมทั้งมีโอกาสสูงที่จะบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรสการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ เพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังทรัมป์มุ่งมั่นที่จะผลักดันให้มีข้อตกลงดังกล่าว

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในปี 63 อยู่ที่ 11.45 ล้านบาร์เรล/วัน (-800,000 บาร์เรล/วันเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า) สูงกว่าจากคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 870,000 บาร์เรล/วัน และในปี 64 อยู่ที่ 11.09 ล้านบาร์เรล/วัน (-360,000 บาร์เรล/วันเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า) สูงกว่าจากคาดการณ์ครั้งก่อน 300,000 บาร์เรล/วัน

“แท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในบริเวณอ่าวเม็กซิโก อพยพพนักงานและหยุดดำเนินการผลิตราว 1.68 ล้านบาร์เรล/วัน หรือคิดเป็น 92% ของกำลังการผลิตในอ่าวเม็กซิโก หลังจากพายุเฮอร์ริเคนเดลต้าถล่มอ่าวเม็กซิโก นับเป็นพายุที่ส่งผลกระทบรุนแรงในรอบ 15 ปี”

ด้านราคากลางน้ำมันสำเร็จรูปตลาดภูมิภาคเอเชียนั้น ราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95 และ 92 เฉลี่ยอยู่ที่ 47.80 และ 46.22 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.37และ 0.30 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันเบนซิน 91 (Non-Oxy) เฉลี่ยอยู่ที่ 47.21 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.04 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จากอุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้นจากการส่งออกของไต้หวันและจีน และความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่มีแนวโน้มปรับลดลงเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว

“มีรายงานของ International Enterprise Singapore (IES) ปริมาณสำรอง Light Distillates เชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ (ณ วันที่ 7 ต.ค. 63) เพิ่มขึ้น 0.21 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 13.78 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ Insights Global รายงานปริมาณสำรองเบนซินเชิงพาณิชย์ที่ Amsterdam-Rotterdam-Antwerp (ARA) ในยุโรป (ณ วันที่ 8 ต.ค. 63) เพิ่มขึ้น 0.44 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 11.76 ล้านบาร์เรล”

ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (10 PPM) เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 44.69 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 1.24 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ปรับลดลง 2.8% (ณ สัปดาห์ 1-7 ต.ค. 63) สู่ระดับ 14.84 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์ โดยญี่ปุ่นส่งออกน้ำมันดีเซลลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางอุปสงค์ในภูมิภาคที่ทรงตัว ประกอบกับสต็อกน้ำมันสำเร็จรูปชนิดกลางในตะวันออกกลางปรับตัวลดลง

“ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.36 บาท/เหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่ระดับ 31.4530 บาท/เหรียญสหรัฐฯ (ต้นทุนน้ำมันเบนซินลดลง 0.18 บาท/ลิตร ขณะที่ต้นทุนน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 0.15 บาท/ลิตร) ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล และน้ำมันดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 2.58 บาท/ลิตร (รวมค่าขนส่งน้ำมันทางท่อจากศรีราชา - กรุงเทพฯ 0.15 บาท/ลิตร) และค่าการกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ 0.62 บาท/ลิตร”

ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 11 ตุลาคม 63 กองทุนน้ำมันมีสินทรัพย์รวม 59,157 ล้านบาท หนี้สินกองทุน 28,163 ล้านบาท ฐานะกองทุนน้ำมันสุทธิ 30,994  ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน  38,838  ล้านบาท บัญชี LPG    -7,844  ล้านบาท

สถานการณ์ราคา Spot LNG เฉลี่ยในสัปดาห์นี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 0.305 เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู มาอยู่ที่ระดับ 5.142เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู เนื่องจากมีความต้องการ LNG เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชียเหนือที่เตรียมการสำรอง LNG สำหรับฤดูหนาวที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตามโครงการผลิตในสหรัฐฯ ได้ทยอยกลับมากลับมาดำเนินการผลิตและส่งออก LNG ตามปริมาณปกติ จึงส่งผลให้มีเที่ยวเรือส่งมอบมาทางเอเชียเพิ่มขึ้น