“พาณิชย์” มั่นใจทั้งปีติดลบแค่8%

23 ก.ย. 2563 | 07:08 น.

ส่งออกไทยเดือน ส.ค.ติดลบ 7.94% แต่ยังมั่นใจทั้งปีติดลบ5-8% เผยสินค้าอาหาร-สินค้าWFH-ป้องกันการติดเชื้อขายดี แนะทูตพาณิชย์โปรโมตหาช่องทางส่งออกเพิ่ม

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)   เปิดเผย ถึงการส่งออกของประเทศช่วงเดือนส.ค. 2563 พบว่าภาพการส่งออกไทย 8เดือน (ม.ค.-ส.ค.)ยังคงติดลบต่อเนื่องโดยติดลบ7.75% มูลค่า153,374.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เดือนสิงหาคมไทยติดลบ7.79% มีมูลค่าอยู่ที่ 20,212 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้าเดือนส.ค. 2563 อยู่ที่ 15,863.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนติดลบ 19.68%  ส่งผลให้ยอดนำเข้า 8 เดือนตั้งแต่เดือนม.ค.-ส.ค. 2563 อยู่ที่ 134,981.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนลดลง 15.31%  ส่งผลให้ไทยยังได้ดุลการค้าในเดือนส.ค.  63 อยู่ที่ 4,349.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ยอดได้การค้า 8 เดือนอยูที่ 18,393.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“พาณิชย์” มั่นใจทั้งปีติดลบแค่8%

ทั้งนี้ หากดูสาเหตุแม้ว่าการส่งออกไทยในช่วงเดือนส.ค. 2563 ติดลบ 7.94%  ถือว่าเป็นการติดลบน้อยลงจากช่วงที่ผ่านมา โดยมีสัญญาณการฟื้นตัวโดยเฉพาะการฟื้นตัวด้านการขนส่งสินค้าทั้งทางอากาศ ทางเรือ และทางบกที่มีคำสั่งซื้อสินค้าของตลาดต่าง ๆ เริ่มกลับมาดีขึ้น ส่งผลให้การค้าโลกเริ่มกลับมาฟื้นตัวแบบช้า ๆ ส่งผลให้ตัวเลขการส่งออกของไทยเดือนส.ค.แตะระดับเกิน 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้ในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าปัญหาการแพร่ระบาดโควิด -19 จะยังวิตกกังวลหลายประเทศทั่วโลก แต่เชื่อว่าบรรยากาศการค้าการลงทุนเริ่มมีสัญญาณที่ดีต่อการฟื้นตัวภาคการส่งออกของการค้าโลกรวมถึงภาคการส่งออกของไทย

 

“พาณิชย์” มั่นใจทั้งปีติดลบแค่8%

อย่างไรก็ตาม ทาง สนค.ประเมินไว้ หากการส่งออกของไทยเฉลี่ยต่อเดือนเกิน 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไปในช่วง 4 เดือนที่เหลือปีนี้โอกาสที่ตัวเลขการส่งออกของไทยจะไม่ถึง 10% หรือ หรือติดลบไม่ถึงสองหลักแน่นอน โดยการส่งออกของไทยน่าจะติดลบอยู่ที่ 5-8%  เท่านั้น ซึ่งมีปัจจัยหนุนสำคัญ คือ หลายประเทศคลายล็อกจากปัญหาโควิด-19 แต่ปัจจัยที่ต้องจับตา คือ ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 แถวยุโรป หรือการค้าชายแดนที่เกรงว่าโควิด-19 จะแพร่ระบาดเข้ามาในไทย ความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน และปัญหาน้ำมันเป็นต้น

“พาณิชย์” มั่นใจทั้งปีติดลบแค่8%

“สนค.ประเมินว่าหากการส่งออกของไทยเฉลี่ยต่อเดือนเกิน 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไปในช่วง 4 เดือนที่เหลือปีนี้โอกาสที่ตัวเลขการส่งออกของไทยจะไม่ติดลบ 2 หลักแน่นอน โดยการส่งออกของไทยน่าจะติดลบอยู่ที่ 5-8%  เท่านั้น ซึ่งมีปัจจัยหนุนสำคัญ คือ หลายประเทศคลายล็อกจากปัญหาโควิด-19 แต่ปัจจัยที่ต้องจับตา คือ ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 แถวยุโรป หรือการค้าชายแดนที่เกรงว่าโควิด-19 จะแพร่ระบาดเข้ามาในไทย ความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน และปัญหาน้ำมัน เป็นต้น”

“พาณิชย์” มั่นใจทั้งปีติดลบแค่8%

“พาณิชย์” มั่นใจทั้งปีติดลบแค่8%

สำหรับสินค้าที่ขยายตัวได้ดีมี 3 กลุ่มก็คือ 1.สินค้าอาหาร เช่น น้ำมันปาล์มขยายตัว 599.6%  ต่อเนื่อง 2 เดือน ในตลาดอินเดีย เคนยา มาเลเซีย และเมียนมา หมูสดแช่แข็ง 962.1%  ขยายตัว 12 เดือนต่อเนื่อง ในตลาดฮ่องกง ลาว และกัมพูชา อาหารสัตว์เลี้ยง 22.3%ขยายตัวต่อเนื่อง 12 เดือนในตลาดสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น อิตาลี ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม    2.สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) และเครื่องใช้ไฟฟ้า ยังคงขยายตัว เช่น เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ตู้เย็น ตู้แช่แข็ง เครื่องซักผ้าขยายตัว 31.3% ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือนในตลาดสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย เปรู อินโดนีเซีย อิยิปต์  และ 3.สินค้าเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาดของโควิด-19  เช่น ถุงมือยาง ซึ่งขยายตัวต่อเนื่องตั้งแต่มีการของโรคอย่างหนักในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร  โดยขยายตัว 125.9% ต่อเนื่อง 9 เดือนในตลาดสหรัฐ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น จีน เยอรมัน  ดังนั้นภาคเอกชน ผู้ส่งออกไทยควรใช้โอกาสนี้ในการหาช่องทางการส่งออกเพิ่มเติม ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่มีทูตพาณิชย์ประจำอยู่ทั่วโลกต้องดำเนินการก็คือการเร่งหาลูกค้าในต่างประเทศด้วยการโปรโมตสินค้าไทยในฐานะเป็นเซลส์แมนของประเทศโดยเน้นสินค้า 3 กลุ่มที่ขยายตัวได้ดีในช่วงที่ผ่านมา