ใช้GPSสแกนป่า102ล.ไร่ พันรีสอร์ตสะท้านจ่อคิวทุบ/ทุนภูชี้ฟ้าไม่ซ้ำรอยภูทับเบิก

19 ก.ย. 2559 | 10:00 น.
กรมป่าไม้-อุทยาน เดินหน้าทวงคืนผืนป่า ใช้จีพีเอสสแกน 102.4 ล้านไร่ทั่วประเทศ หาพิกัดกวาดล้างทุนฮุบป่า -พร้อมใช้วันแมป มาตราส่วน 1:4000 ทาบ ใครลํ้าเขตกันออกสถานเดียว หลังปี 2559 ยึดคืนแล้ว แสนไร่ “ชลธิศ สุรัสวดี” แบตัวเลขกว่า 1,000 รีสอร์ต อยู่ในข่ายทุบทิ้ง! ดีเดย์ 30 กันยายน นี้ รู้ผล ใครออกเอกสารสิทธิทับที่รัฐ /ใบภ.บ.ท.5 /ที่ส.ป.ก.ไม่รอด ขณะที่ ภูชี้ฟ้า พบ 65 แห่งนายทุน-ม้งมั่นใจครอบครองถูกก.ม. /พ่อเมืองเพชรบุรีขอป่าชายเลนคืน 3,168 ไร่ ภูหินร่องกล้าเจอแล้ว 6 รีสอร์ต เดินหน้าลุยเขาค้อต่อ 3.3หมื่นไร่ ส่วนภูทับเบิก ชง “บิ๊กตู่” คลอดแผนแม่บทผุดเที่ยวเชิงนิเวศต่อไป

[caption id="attachment_99261" align="aligncenter" width="700"] สถิติการดำเนินคดีบุกรุกพื้นที่ป่า สถิติการดำเนินคดีบุกรุกพื้นที่ป่า[/caption]

นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ปีงบประมาณ2560 ( ตุลาคม 2559-กันยายน 2560) กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช เตรียมใช้ระบบติดตามด้วยดาวเทียม หรือ จีพีเอส ตรวจหาพิกัดเขตป่าทั้ง 102.4ล้านไร่ทั่วประเทศ เนื่องจากโอกาสผิดพลาดตกหล่นเป็นไปได้น้อย และเข้าถึงเป้าหมายได้เร็ว มากกว่าเจ้าหน้าที่ที่โอกาสตกหล่นมีสูงหรือเลือกปฏิบัติ

อย่างไรก็ดีจะใช้งบประมาณ 12 เพื่อนำดาวเทียมดังกล่าวมาใช้ตรวจสอบทุก 1-3เดือน ขณะเดียวกัน ขณะนี้วันแมป ซึ่งเป็นแผนที่มาตรฐานเดียวมาตราส่วน 1:4000 ที่ล่าสุด นำมาใช้ตั้งแต่วันที่ 1กันยายน 2559 เป็นต้นไปเพื่อแก้ปัญหาที่ดินทับซ้อนระหว่างรัฐด้วยกันและรัฐกับเอกชน ซึ่งเมื่อนำแผนที่ดังกล่าวมาทาบ หาก พบใครบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน และอุทยานก็จะกันที่ดินแปลงดังกล่าวออกไป

ขณะที่ผลการตรวจสอบปีงบประมาณ2559 อธิบดีกล่าวว่า สามารถทวงคืนผืนป่าตามนโยบายรัฐบาลได้ 9หมื่น-1แสนไร่ ที่สำคัญพบว่า รีสอร์ทในเขตป่าสงวน กว่า 1,000 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งอาจมีอาคารที่พัก แยกออกมา 10ราย20รายหรือ 100รายเป็นต้นส่วนใหญ่พบมาก ได้แก่ จังหวัดนครนายก กาญจนบุรี เพชรบูรณ์ ภูทับเบิก ฯลฯ ซึ่งที่ผ่านมา กรมได้ออกหนังสือ ให้เจ้าของรีสอร์ทแสดงหลักฐานออกมาว่าเอกสารสิทธิ์ได้มาถูกต้องหรือไม่หากไม่มี จะดำเนินคดีและเข้าสู่กระบวนการของศาลทันที ซึ่งวันที่ 30กันยายนนี้เป็นวันสุดท้ายที่เปิดโอกาสให้

แต่จะเปิดโอกาสให้ ประชาชนผู้ยากไร้ได้ทำกินต่อแม้จะอยู่ในข่ายบุกรุก แต่หากบุกรุกใหม่จะดำเนินคดีทันที ผู้สื่อข่าว "ฐานเศรษฐกิจ" ประจำจังหวัดเชียงราย รายงานว่า เมื่อวันที่ 12-14 กันยายนที่ผ่านมา สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) ได้ร่วมกับทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ตรวจสอบการถือครองที่ดินของกิจการโรงแรมที่พักรีสอร์ท รวมทั้งบ้านพักตากอากาศหรู ในเขตตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จำนวน 41ราย และในเขตตำบลปอ อำเภอเวียงแก่นจำนวน 24 ราย ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดเชียงราย ทั้งภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว ผาตั้ง และผาบ่องประตูแห่งรัก

นายบันเทิง เครือวงศ์ อดีตนายก องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ตับเต่า อำเภอเทิง ผู้ประกอบการรีสอร์ทบนภูชี้ฟ้า ในฐานะประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดเชียงราย และ นายกสมาคมการท่องเที่ยวโดยชุมชนภาคเหนือ เปิดเผยว่า การเข้ามาดำเนินการตรวจสอบการถือครองที่ดิน ของผู้ประกอบการโรงแรมที่พักรีสอร์ทบนภูชี้ฟ้า-ผาตั้ง เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศและปริมาณนักท่องเที่ยว ช่วงไฮซีซันที่กำลังมาถึงอย่างแน่นอน และเชื่อว่าทั้งภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว และผาบ่องประตูแห่งรัก จะยังเป็นเป้าหมายสำคัญ ที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเยือนดังเดิม

"ส่วนตัวผมไม่อยากให้ผู้ประกอบการ ไปวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวมากนัก เพราะการถือครองที่ดินบนภูชี้ฟ้า-ผาตั้งมีความแตกต่างกับที่ภูทับเบิก มีความชัดเจนในเรื่องของการถือครองซึ่งทหารสมัยนั้นได้ทำไว้ อยากให้มาปรึกษาหารือถึงการเตรียมความพร้อมต่างๆ เพื่อที่จะรองรับรับคลื่นนักท่องเที่ยวที่จะมาเยือนในช่วงปลายปีนี้มากกว่า" นายบันเทิง กล่าว

ขณะที่ นายทวีศักดิ์ ยอดมณีบรรพต กำนันตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น ในฐานะ ประธานชมรมชาวเขาเผ่าม้งแห่งประเทศไทย กล่าวยอมรับว่า การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ต่อชาวม้งที่ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้ชาวม้งเจ้าของรีสอร์ทบนดอยยาว-ดอยผาหม่น(ภูชี้ฟ้า-ผาตั้ง) เกิดความหวาดกลัวว่าจะถูกดำเนินคดีหรือต้องถูกรื้อถอนในอาคารสิ่งก่อสร้างที่ได้ลงทุนไปแล้ว หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ

"ผมยืนยันอีกครั้งว่า ชาวม้งบนดอยยาว-ดอยผาหม่น ได้รับการจัดสรรที่ดิน ในสมัยที่เป็นผู้เข้าร่วมพัฒนาชาติไทยตามคำสั่งที่ 66/2523 ของรัฐบาลในยุคนั้น หากสุดท้ายแล้วจะมีการดำเนินคดี หรือเข้ารื้อถอนอาคารสิ่งก่อสร้างต่างๆ ชมรมม้งฯคงยอมไม่ได้ เบื้องต้นจะทำหนังสือร้องเรียนไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ตรวจสอบการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ว่าถูกต้องเป็นธรรมต่อพี่น้องม้งหรือไม่" นายทวีศักดิ์ กล่าว

ทางด้าน นายทนงศักดิ์ ธรรมโม ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าฯ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) เปิดเผยถึงการตรวจสอบว่า การลงพื้นที่ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและเจ้าของกิจการ ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาเป็นผู้ชี้แนวเขตที่ดินด้วยตนเอง ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าที่ดินแปลงใด กิจการใดมีการบุกรุกป่า เพราะยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐานการถือครองที่ดิน และยังต้องทำบันทึกการตรวจสอบ การทำแผนที่ประกอบ โดยการนำพิกัดที่วัดด้วย GPS มาลงในแผนที่อีกครั้ง

" กรณีที่ผู้ประกอบการอ้างว่าได้รับจัดสรรที่ดิน ตามคำสั่งที่ 66/2523 ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะจะใช้แผนที่ของกรมป่าไม้ร่วมกับแผนที่ของทหาร เพื่อให้ผลการตรวจสอบมีความชัดเจนและเป็นธรรมกับผู้ประกอบการมากที่สุด" นายทนงศักดิ์ ระบุ

ด้านนายสนิท ขาวสอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีกล่าวว่า ขณะนี้ได้ยึดคืนป่าชายเลนอยู่ที่อำเภอบ้านแหลม คืน 3,168ไร่ ซึ่งป่าสงวน 2,175ไร่ ส่วนใหญ่ เป็นนายทุนรายเดียว ซึ่งซื้อที่ดินต่อจากชาวบ้านไร่ละไม่ถึง1ล้านบาท แต่ยังไม่มีรีสอร์ทปรากฏ

ส่วน นายณรงค์ คงคำ รองอธิบดีกรมพัมนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบอุทยานภูหินร่องกล้ว พบรีสอร์ท แล้ว 6 ราย ซึ่งจะขยายผลต่อไป นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายตรวจสอบพื้นที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ 3.3หมื่นไร่ ขณะเดียวกัน ได้ เตรียมเสนอแผนแม่บทฟื้นฟูภูทับเบิก 1.3หมื่นไร่ ต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อพิจารณาเห็นชอบให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ต่อไป

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,193 วันที่ 18 - 21 กันยายน พ.ศ. 2559