ปลดล็อก 187 ร้านค้า กลับเข้าร่วมโครงการ เราชนะ

10 มิ.ย. 2564 | 11:24 น.

กระทรวงการคลัง ปลดล็อก 187 ร้านค้า กลับเข้าร่วมโครงการ เราชนะ สามารถใช้แบนเนอร์ “เราชนะ” ในแอป ถุงเงินได้ หลังได้รับเอกสารชี้แจง จากระงับสิทธิ์ทั้งหมด 2,751 ราย

นางสาวกุลยา  ตันติเตมิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ระงับสิทธิชั่วคราวผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ เราชนะ เนื่องจากตรวจพบธุรกรรมที่ผิดปกติจำนวน 2,751 ราย ซึ่งมีผู้ประกอบการจำนวนหนึ่งจัดส่งเอกสารชี้แจงโต้แย้งมาภายในระยะเวลาที่กำหนด คณะทำงานฯ ได้วินิจฉัยเอกสารชี้แจงโต้แย้งแล้ว และมีมติให้ยกเลิกการระงับสิทธิชั่วคราวผู้ประกอบการจำนวน 187 ราย

กุลยา  ตันติเตมิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) 

ผู้ประกอบการทั้ง 187 ราย จะสามารถเข้าร่วมโครงการ เราชนะ โดยการใช้แบนเนอร์ “เราชนะ” ในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ได้อีกครั้ง สำหรับผู้ประกอบการที่ไม่ผ่านการวินิจฉัย สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจะมีเอกสารแจ้งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตามที่อยู่ในทะเบียนราษฎร 

 

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้กำหนดแนวทาง เพื่อควบคุมและป้องกันการกระทำผิดวัตถุประสงค์ของโครงการ เราชนะ อย่างเข้มงวด โดยตั้งคณะทำงานพิจารณาตรวจสอบข้อมูลและเรื่องร้องเรียนสำหรับโครงการ เราชนะ ในการติดตามตรวจสอบผู้ประกอบการและประชาชนที่กระทำการเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ เราชนะ อย่างใกล้ชิด

 

กรณีที่พบการกระทำผิดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการ เราชนะ เช่น การรับแลกวงเงินสิทธิเป็นเงินสด จะดำเนินการระงับสิทธิชั่วคราวการเข้าร่วมโครงการฯ และร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและขยายผลการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป ขณะที่กระทรวงการคลังและธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันปรับปรุงระบบการปฏิบัติงานของแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ให้มีความรัดกุมและเหมาะสมมากขึ้น เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและผู้ประกอบการที่สุจริต ตลอดจนควบคุมและลดโอกาสในการกระทำความผิดของผู้ประกอบการ 

 

“ขอย้ำว่า กระทรวงการคลังจะเข้มงวดในการติดตามตรวจสอบประชาชนและผู้ประกอบการที่กระทำการเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการอย่างใกล้ชิด โดยขอความร่วมมือจากประชาชนและผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการของกระทรวงการคลังปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของแต่ละโครงการอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เสียสิทธิการเข้าร่วมโครงการหรือมาตรการอื่นของรัฐในอนาคตและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย”นางสาวกุลยา

 

สำหรับความคืบหน้าโครงการ เราชนะ ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2564 1.ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.7 ล้านคน มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564  จำนวน 100,025 ล้านบาท  2.ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”ในโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน และ คนละครึ่งและกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์  www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว 17.1 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์จำนวน 146,471 ล้านบาท

 

3.ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว 2.4  ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม จำนวน 20,116 ล้านบาท ทำให้มีมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 266,612 ล้านบาท และมีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการ เราชนะ ที่ใช้จ่ายจนครบวงเงินสิทธิ์แล้ว 22.1 ล้านคน  โดยใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน“ถุงเงิน”ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ รวมมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: