วัคซีนทางเลือกเตรียมเข้าไทยอีก 5 ยี่ห้อ "หมอเฉลิมชัย" คาดพอฉีด 50 ล้านคนในเดือน ธ.ค.

02 มิ.ย. 2564 | 14:20 น.

หมอเฉลิมชัยเผยวัคซีนทางเลือกเตรียมเข้าไทยอีก 5 ยี่ห้อ เชื่อเพียงพอสำหรับ 50 ล้านคน ได้ภูมิคุ้มกันหมู่ในเดือนธันวาคม 2564

รายงานข่าวระบุว่า น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยระบุข้อความว่า
    ข่าวดี !! ไทยมีวัคซีน AstraZeneca ในมือแล้ว 1,800,000 เข็ม พร้อมฉีด ได้ตั้งแต่ 7 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป
    บริษัทสยามไบโอซายน์ ผู้ผลิตวัคซีน AstraZeneca เพียงแห่งเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ส่งมอบวัคซีนล็อตแรกจำนวน 1,800,000 เข็มให้กับบริษัทเเอสตร้าเซเนก้า(ไทยแลนด์) แล้ว
    โดยวัคซีนดังกล่าวผลิตโดย บริษัทสยามไบโอซายน์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2552 ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกลของล้นเกล้าในหลวงรัชกาลที่เก้า ได้ดำเนินการประเมินคุณภาพและตรวจอย่างเข้มข้น มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
    ขณะนี้วัคซีนที่เริ่มผลิตขึ้น ได้ผ่านการตรวจอย่างเข้มข้น ตามมาตรฐานโลก ทั้งในยุโรป และสหรัฐอเมริกากว่า 60 รายการ ผ่านการตรวจเสร็จเรียบร้อย และมีประสิทธิผลหลังฉีดเข็มหนึ่ง สามารถลดความรุนแรงของการนอนโรงพยาบาลได้ 80% รวมทั้งได้มีการส่งออกวัคซีนไปกว่า 500 ล้านเข็ม 168 ประเทศทั่วโลก
    โดยที่วัคซีนของบริษัท AstraZeneca ที่สยามไบโอซายน์ผลิตนั้น เป็นล็อตแรก หลังจากนั้น จะมีการทยอยส่งให้กับทางบริษัทแอสตร้าเซเนก้า(ไทยแลนด์) ซึ่งจะส่งมอบให้กับรัฐบาลไทยต่อไป
ในเดือนมิถุนายนจำนวน 6 ล้านเข็ม ในเดือนกรกฎาคม 10 ล้านเข็ม และต่อเนื่องกันไปถึงปลายปี รวมทั้งสิ้น 61 ล้านเข็ม ก็จะเป็นวัคซีนหลัก ที่จะช่วยทำให้คนไทยได้รับภูมิคุ้มกัน โดยมีวัคซีน Sinovac เป็นวัคซีนเสริม

AstraZeneca เข้าไทย 1.8 ล้านโดสพร้อมฉีด 7 มิ.ย. 64
    และวัคซีนทางเลือกที่จะเข้ามาอีกได้แก่
    Pfizer 20 ล้านเข็ม
    Johnson & Johnson 
    Sinopharm 
    Moderna 
    Sputnik V

    อย่าง 5-10 ล้านเข็ม
    คาดว่าจะเพียงพอสำหรับ 50 ล้านคน ได้ภูมิคุ้มกันหมู่ในเดือนธันวาคม 2564 นี้ครับ
    ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวมตัวเลขการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 (Covid-19) ใปประเทศจากศูนย์ข้อมูล COVID-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 28 ก.พ.-1 มิ.ย. 64 พบว่า มีการฉีดวัคซีนไปแล้วจำนวน 3,753,718 โดส ประกอบด้วย เข็มที่ 1 สะสมอยู่ที่จำนวน 2,591,372 ราย และเข็มที่ 2 สะสมอยู่ที่จำนวน 1,162,346 ราย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :