นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการอาวุโส กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวงจำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ DW01 เปิดเผยว่า จากกระแสความนิยม หุ้น ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากนักลงทุนรายย่อยหนุนให้ DW01 อ้างอิงหุ้น OR ทั้ง Call และ Put ของบริษัทที่ออกไปแล้ว เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน สะท้อนได้จากมูลค่าการถือครอง DW อ้างอิงหุ้น OR ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ต่อยอดความต้องการของตลาด ด้วยการออก “DW01 ซีรีส์ X อ้างอิงหุ้น OR” เป็นครั้งแรก รุ่นใหม่ล่าสุดที่ออกแบบมา สำหรับนักลงทุนรายย่อยโดยเฉพาะ กันรายใหญ่ตัดหน้า โดดเด่นด้วยการปรับฟีเจอร์ให้ดีขึ้น เช่น อัตราทดดีขึ้น และค่าเสื่อมเวลาต่ำลง เมื่อเทียบกับ DW ซีรีส์ปกติเพื่อให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเทรดได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น โดย OR DW01 ซีรีส์ X ชุดแรก ได้เริ่มซื้อขายในตลาดแล้ว เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ประกอบด้วย OR01C2108X และ OR01P2108X ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายย่อยเป็นอย่างมาก สะท้อนได้จากตัวเลขมูลค่าการถือครองของOR01C2108X และ OR01P2108X ที่ปรับตัวสูงขึ้นตลอด 2 สัปดาห์แรกที่ออกและเสนอขาย
ทั้งนี้ วิธีการซื้อขาย DW01 ซีรีส์ X จะมีข้อแตกต่างจากซีรีส์ปกติเล็กน้อย โดยหลักทรัพย์บัวหลวงจะวางOFFER ในปริมาณที่ไม่สูงมาก แต่นักลงทุนรายย่อยยังสามารถซื้อขาย DW01 ซีรีส์ X ในปริมาณมากได้เหมือนซีรีส์ปกติ โดยระบบคอมพิวเตอร์ของทางหลักทรัพย์บัวหลวงจะขายเพิ่มให้แบบเรียลไทม์ หากปริมาณ OFFER DW ที่วางไว้น้อยกว่าคำสั่งเคาะซื้อของนักลงทุน ทั้งนี้จะสอดคล้องกับสภาวะตลาดด้วยเช่น สภาพคล่องของหุ้นอ้างอิง ความผันผวนของหุ้นอ้างอิง ณ ขณะนั้น เป็นต้น
“ความคุ้มค่ากว่าของ DW01 ซีรีส์ X สังเกตได้ง่าย ๆ เมื่อเปรียบเทียบ OR01C2108X และ OR01C2108A ที่ออกพร้อมกันวันเดียวกัน ซึ่ง ณ วันซื้อขายวันแรก OR01C2108X จะมีอัตราทดที่สูงกว่า OR01C2108A เล็กน้อย ส่งผลให้นักลงทุนสามารถสร้างโอกาสทำกำไรจาก DW01 ซีรีส์ X ได้สูงขึ้น หากคาดการณ์ทิศทางหุ้นแม่ได้ถูกต้อง ในขณะเดียวกันจุดไฮไลท์สำคัญ คือ OR01C2108X มีค่าเสื่อมเวลาต่ำกว่าOR01C2108A ทำให้ถือครองได้หลายวันขึ้น กว่าจะลดลง 1 ช่อง โดยอาจถือครองได้ถึง 3-4 วัน ในขณะที่ซีรีส์ A อาจถือครองได้ 2-3 วัน กว่าจะลดลง 1 ช่อง ซึ่งนักลงทุนสามารถดูได้จากตารางราคาในเว็บไซต์www.blswarrant.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง”
สำหรับภาพรวมการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant : DW) ในเดือนมี.ค.64 มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 9,783.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.43% จากเดือนก.พ.ที่มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 9,107.01 ล้านบาท โดยสัดส่วนการเทรด Call DW ลดลงมาอยู่ระดับ 58.27% จากเดือนก.พ.ที่อยู่ระดับ 60.19% แม้ SET Index จะปรับตัวสูงขึ้น สะท้อนนักลงทุนมองตลาดเริ่มมีแนวโน้มเข้าสู่ช่วงพักฐาน โดยในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปิดระดับ 1,587.21 จุด เพิ่มขึ้น 90.43 จุด จากสิ้นเดือนก.พ.64 และมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขาย DW ต่อหลักทรัพย์ทั้งระบบอยู่ที่ 10.69%
ขณะที่ DW ที่มีการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ 1. DW อ้างอิงดัชนี SET50 มีสัดส่วนการซื้อขาย52.44% ของการซื้อขาย DW ทั้งอุตสาหกรรม โดยซื้อขาย Put 59.81% และ Call 40.19% ของมูลค่าซื้อขาย DW ที่อ้างอิงกับ SET50 ทั้งระบบ 2. DW อ้างอิงหุ้น SAWAD มีสัดส่วนการซื้อขายอยู่ที่ 2.75% ของการซื้อขาย DW ทั้งอุตสาหกรรม โดยมีสัดส่วนการลงทุนใน DW ประเภท Call ถึง 88.11% ของมูลค่าซื้อขาย DW ที่อ้างอิงกับหุ้น SAWAD ทั้งระบบ และ 3. DW ที่อ้างอิงหุ้น KTC มีสัดส่วนการซื้อขายอยู่ที่2.66% ของการซื้อขาย DW ทั้งอุตสาหกรรม ซึ่งนักลงทุนให้ความสนใจลงทุนใน DW ประเภท Call เป็นสัดส่วน 80.15% ของมูลค่าซื้อขาย DW ที่อ้างอิงกับ KTC ทั้งระบบ
หลักทรัพย์บัวหลวง ถือเป็นผู้ออกและเสนอขาย DW ที่มีความหลากหลายของฟีเจอร์ โดยแต่ละซีรีส์ได้ออกแบบมาให้มีความแตกต่าง ตอบโจทย์นักลงทุนในหลากหลายสไตล์ ปัจจุบัน DW01 มีด้วยกัน 3 ซีรีส์คือ 1. DW01 ซีรีส์ T เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการถือครองนานขึ้น เพราะมีค่าเสื่อมเวลาที่ต่ำกว่าเฉลี่ยของ DW ทั่วไปในตลาด 2. DW01 ซีรีส์ A รุ่นอัตราทดสูง ขยับดี เน้นเทรดไว และ 3. DW01 ซีรีส์X ที่สร้างสรรค์มาเพื่อรายย่อยโดยเฉพาะ เพิ่มขีดความคุ้มค่าในการเทรด DW ให้กับรายย่อยด้วยอัตราทดที่ดีขึ้น ค่าเสื่อมเวลาต่ำลง เมื่อเทียบกับ DW ซีรีส์ปกติ