ชำแหละ พปชร. รื้อระบบเลือกตั้ง ‘ฟื้นเผด็จการรัฐสภา’

10 เม.ย. 2564 | 02:40 น.

ชำแหละ พปชร. รื้อระบบเลือกตั้ง ‘ฟื้นเผด็จการรัฐสภา’ : รายงาน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,669 หน้า 10 วันที่ 11 - 14 เมษายน 2564

พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดย นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ได้รวบรวมรายชื่อ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จำนวน 110 ชื่อ เพื่อยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม ต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ไปแล้ว เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2564 ที่ผ่านมา 

โดยพรรคพลังประชารัฐ ได้ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งหมด 5 ประเด็น 13 มาตรา ประกอบด้วย 

ประเด็นที่ 1 แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 3 สิทธิและเสรีภาพ แก้ไขมาตรา 29, 41 และมาตรา 45 

ประเด็นที่ 2 แก้ไขระบบการเลือกตั้ง มาตรา 83, 85, 86, 90, 91, 92 และมาตรา 94 ให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นแบบบัตร 2 ใบ ส.ส.แบบแบ่งเขต 400 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ตามรัฐธรรมนูญ 2540

ประเด็นที่ 3 แก้ไขมาตรา 144 การพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณ ซึ่งเดิมมี ปัญหากระทบต่อการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำงบประมาณ แก้ไขโดยให้ใช้ข้อความตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 168 วรรคห้า วรรคหก วรรคเจ็ด วรรคแปด และวรรคเก้า มาใช้แทน 

ประเด็นที่ 4 แก้ไขมาตรา 185 เพื่อแก้ไขอุปสรรคการทำงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา ให้สามารถติดต่อส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้ โดยได้นำรัฐธรรมนูญ 2540 มาตรา 111 มาใช้แทน 

ประเด็นที่ 5 แก้ไขบทเฉพาะ กาล มาตรา 270 เปลี่ยนแปลงอำนาจวุฒิสภา ให้เป็นอำนาจรัฐสภา โดย ส.ส. ส.ว. มีหน้าที่และอำนาจติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ตามหมวด 16 การปฏิรูปประเทศ และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ

 

นายไพบูลย์ อธิบายถึงการแก้ไขระบบเลือกตั้ง จากบัตรใบเดียวเป็นบัตร 2 ใบ ว่า ตรงกับความต้องการของพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล รวมทั้งรับฟังเสียงประชาชนมาทุกคนก็ต้องการแบบนี้ เป็นการแก้ไขเพื่อลดความขัดแย้ง ซึ่งหลายฝ่ายโจมตีว่าพรรคพลังประชารัฐได้ประโยชน์จากบัตรใบเดียว 

ต่อข้อเสนอของพรรคพลังประชารัฐ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นปรับระบบเลือกตั้งจากจัดสรรปันส่วนผสม เป็นการเลือกตั้งแบบรัฐธรรมนูญ 2540 ให้มีส.ส.เขต 400 คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน นั้น 

 

ชำแหละ พปชร. รื้อระบบเลือกตั้ง ‘ฟื้นเผด็จการรัฐสภา’

 

นายเจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แสดงความเห็นว่า การเลือกตั้งในปี 2540 ที่ทำให้รัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้มแข็ง และทำให้รัฐสภาถูกมองว่าเป็น “เผด็จการรัฐสภา” และทำให้การเมืองล้มเหลว ดังนั้น การแก้ไขให้รัฐธรรมนูญกลับมาใช้ระบบเลือกตั้งที่เคยถูกมองว่ามีปัญหา อาจถูกวิจารณ์ได้  

ส่วนกรณีที่กำหนดให้ส่งเลือกตั้งส.ส.เขต 100 เขต อดีตที่ปรึกษา กรธ. มองว่า ปิดกั้นพรรคการเมืองขนาดเล็กมากเกินไป ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นความต้องการของพรรคพลังประชารัฐ หรือ ความต้องการของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ซึ่งกรณีดังกล่าวทำให้พรรคการเมืองขนาดเล็ก ไม่สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ และที่สำคัญการเสนอดังกล่าวพรรคพลังประชารัฐ ควรถามพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง พรรคชาติพัฒนา ว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาส่งส.ส.ถึง 100 เขตหรือไม่

 

“รัฐธรรมนูญ 2540 ออกแบบให้รัฐบาลเข้มแข็ง แต่ระบบนั้นปูทางไปสู่เผด็จการรัฐสภา ดังนั้น การแก้ไข หรือเขียนเนื้อหาเรื่องระบบเลือกตั้งใหม่ ต้องระมัดระวัง โดยที่ผ่านมารัฐธรรมนูญ 2560 นั้น พยายามแก้ไขความเข้มแข็งมากเกินไป แต่ไม่ได้ทำให้ใครอ่อนแอ”

นายเจษฎ์ กล่าวด้วยว่า ตนอยากเห็นพรรคภูมิใจไทย และ พรรคประชาธิปัตย์ ยึดมั่นหลักการต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือ ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ให้ประชาชนมีส่วนร่วมและผลักดันการบูรณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 

“แม้ว่าฝั่งของพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงส.ว.จะมีเสียงมาก กว่าก็ตาม อย่างไรก็ดี หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถทำได้ รัฐบาลต้องยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ เพราะที่ผ่านมาเคยมีการสร้างมาตรฐาน ดังกล่าวไว้ โดยพรรคประชาธิปัตย์ และถือว่าเป็นการแสดงสปิริตที่ดี” อดีตที่ปรึกษา กรธ.กล่าวทิ้งท้าย