“PACO” พร้อมเทรดวันแรก 22 มี.ค. 64

19 มี.ค. 2564 | 06:49 น.

PACO เตรียมเข้าซื้อขายวันแรก 22 มี.ค. 64 มั่นใจกระแสแรง หลังหุ้นไอพีโอปีนี้เปิดเทรดสวย ชี้กำไรโตแรง 150% คาดตลาดรถยนต์โลกฟื้นตัวดีตามเศรษฐกิจ

นายสมชาย เลิศขจรกิตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด(มหาชน) (PACO) เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ในวันที่ 22 มีนาคม 2564 โดยเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ที่ราคาหุ้นละ 1.40 บาท จำนวน 260 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 26% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด ทั้งนี้ มั่นใจว่าจากศักยภาพในการสร้างความเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืนจะช่วยสนับสนุนให้ PACO เป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ ยังเชื่อว่านักลงทุนที่พลาดการจองหุ้นไอพีโอ จะเข้าซื้อในวันแรกนี้ เนื่องจากบริษัทมีการเติบโตของกำไรสูงกว่า 150% ในปี 2563 โดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 76.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 46.19 ล้านบาทเมื่อเทียบกับปี 2562 จากการนำเครื่องจักรอัตโนมัติเข้ามาติดตั้งและดำเนินการได้เต็มที่ ส่งผลให้เกิดการปรับกระบวนการทำงานในการผลิตเพื่อควบคุมการใช้แรงงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้สามารถลดต้นทุนค่าแรงและค่าล่วงเวลาได้อย่างมีนัยสำคัญ และบริษัทมั่นใจว่าปีนี้เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย รวมถึงตลาดชิ้นส่วนรถยนต์จะกลับมาฟื้นตัวดีจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ลูกค้ามีกำลังซื้อมากขึ้น

สำหรับ PACO เป็นผู้นำในธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอะไหล่แอร์รถยนต์ในตลาดชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทน(REM  หรือ  Aftermarket) ระดับนานาชาติ ที่มีความสามารถในการแข่งขันสูง มีส่วนแบ่งการตลาดในตลาดอะไหล่รถยนต์ทั่วโลก และบริษัทจะนำเงินจากการเพิ่มทุน เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการจำนวน 108 ล้านบาท ใช้ลงทุนในโครงการอนาคต 2 โครงการ จำนวน 40 ล้านบาท คือ โครงการก่อสร้างคลังสินค้าและย้ายจุดกระจายสินค้าในประเทศจำนวน 20 ล้านบาท และ จัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้าและขยายตลาดในประเทศมาเลเซียจำนวน 20 ล้านบาท นอกจากนี้ จะนำไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงินจำนวน 200 ล้านบาท โดยมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองต่าง ๆ ตามกฎหมาย

นายวรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นของ PACO กล่าวว่า หุ้นไอพีโอ PACO ได้รับความสนใจในการจองซื้ออย่างสูงจากกลุ่มนักลงทุน เนื่องจากบริษัทมีจุดแข็งด้านการเป็นผู้ผลิตและส่งออกชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ระดับนานาชาติ และ มีรายได้ที่มีความมั่นคงสูง ไม่แปรผันตามสภาวะเศรษฐกิจโลก โดยหุ้นไอพีโอที่ราคา 1.40 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่เหมาะสม เมื่อเปรียบเทียบกับ P/E ของหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ของไทย 

ขณะเดียวกัน กลุ่มนักวิเคราะห์คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจทั่วโลกและเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัว ซึ่งเป็นผลดีต่อบริษัทที่มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างมั่นคง และมีจุดแข็งด้านการผลิตด้วยเทคโนโลยีระดับสูง มีผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง รองรับรถยนต์และรถบรรทุกทุกประเภท โดยการระดมทุนครั้งนี้ นอกจากเพื่อคืนหนี้สถาบันการเงินแล้ว ยังเป็นการเพิ่มสภาพคล่องในการขยายกิจการ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน