ลุ้นศาลรธน.วันนี้จ่าย-ไม่จ่าย“ค่าโง่โฮปเวลล์” 2.4 หมื่นล้าน 

16 มี.ค. 2564 | 23:00 น.

ศาลรธน.ตัดสินวันนี้ปมผู้ตรวจฯ ชงตีความมติที่ประชุมใหญ่ศาลปค.สูงสุด นับอายุความตั้งแต่ตั้งศาลปกครอง ขัดรธน.หรือไม่ มีผลจ่าย-ไม่จ่าย “ค่าโง่โฮปเวลล์” 2.4 หมื่นล้าน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ในวันที่ 17 มีนาคมนี้ เวลา 09.30 น. ศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดลงมติ กรณีผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอเรื่องให้ตีความว่า มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดครั้งที่ 18/2545 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2545 ที่กำหนดให้นับอายุความฟ้องคดีปกครองตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการ คือวันที่ 9 มีนาคม 2544 ซึ่งไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 มาตรา 51 ที่บัญญัติว่าให้เริ่มนับระยะเวลาอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ “รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี” จึงถือว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 5 วรรคหนึ่ง มาตรา 25 วรรคสาม มาตรา 188 และมาตรา 197 ทำให้มติศาลปกครองสูงสุดที่ให้จ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ จำนวนกว่า 2.4 หมื่นล้านบาท ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้วินิจฉัยตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายนปีที่แล้ว ใช้เวลาในการพิจารณานาน 4  เดือน 

สำหรับมหากาพย์คดีค่าโง่โฮปเวลล์ ยาวนานมาถึง 13 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่  8 พ.ย.51  อนุญาโตตุลาการ ให้ คมนาคม-รฟท.จ่ายค่าเสียหายแก่ บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด 11,888 ล้านบาท  

13 มี.ค.57 ศาลปกครองกลางเพิกถอนคำสั่งอนุญาโตตุลาการ คมนาคม-รฟท.ไม่ต้องจ่ายค่าโง่ 11,888 ล้านบาท 

22 เม.ย.62 ศาลปกครองสูงสุดกลับคำพิพากษาศาลปกครองกลาง คมนาคม-รฟท.จ่ายค่าโฮปเวลล์พร้อมดอกเบี้ย รวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท ภายใน 180 วัน  

22 พ.ย.62    รฟท.ยื่นสี่หน่วยงาน เสนอครม.งดจ่ายค่าโง่-สู้คดีต่อ

22 ก.ค.63 ศาลปกครองสูงสุดไม่รับพิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่ ตามคำร้องของคมนาคม และ รฟท.

17 พ.ย.63 ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาลรธน. ตีความมติศาลปกครองสูงสุด ปมมติที่ประชุมใหญ่ตุลการศาลปกครองสูงสุด นับอายุความวันตั้งศาลปกครองขัดรธน.หรือไม่

และล่าสุด 17 มี.ค.64  ศาลรธน.นัดลงมติ ปมมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด นับอายุความวันตั้งศาลปกครองขัดรธน.หรือไม่


 

ในการต่อสู้คดีนี้ของ รฟท.ได้มอบหมายให้นายนิติธร ล้ำเหลือ เป็นทนายความผู้รับมอบอำนาจ ยื่นหลักฐานใหม่ต่อศาลปกครองขอรื้อคดีที่ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาให้จ่ายค่าโง่ให้บริษัทโฮปเวลล์กว่า 2.4 หมื่นล้านบาท เนื่องจากพบว่า เป็นบริษัทต่างด้าวจดทะเบียนไม่ถูกต้อง แต่ก็ถูกตีตกไป ศาลปกครองสูงสุดไม่รับคำฟ้อง ทำให้คดีถึงที่สุด 

กระทั่งมีการไปยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ มติที่ประชุมศาลปกครองสูงสุด กรณีนับอายุความ ขัดรัฐธรรมนูญ นำไปสู่คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่จะมีขึ้นวันที่ 17 มีนาคมนี้

โดย ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีมติเห็นว่า เมื่อมติที่ประชุมใหญ่ฯ ดังกล่าวไม่ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่สามารถใช้บังคับได้ตามพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 5 มาตรา 6 และ มาตรา 44    

 

อีกทั้งมติที่ประชุมใหญ่ฯ ดังกล่าวยังกำหนดให้เริ่มนับอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ “ศาลปกครองเปิดทำการ” คือ ตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. 2544 ซึ่งผิดไปจากพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 51 ที่บัญญัติว่า ให้เริ่มนับระยะเวลาอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ “รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี”
ดังนั้น จึงเป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 188 และมาตรา 197 ทำให้เป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการกระทำที่ไม่อาจใช้บังคับได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 5 วรรคหนึ่ง ซึ่งบุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิดังกล่าวสามารถใช้สิทธิทางศาลรัฐธรรมนูญได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 วรรคสาม ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงวินิจฉัยให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ของรัฐธรรมนูญ60 ประกอบ มาตรา 46 พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :