คนร. เห็นชอบตั้ง 2 บริษัทลูกของ กฟน. และ กฟผ.

10 มี.ค. 2564 | 08:56 น.

ผอ.สคร. เผย นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ประชุม คนร. นัดแรก เห็นชอบตั้ง 2 บริษัทลูกของ กฟน. และ กฟผ. หวังยกระดับการจัดการด้านพลังงานด้วยนวัตกรรม

นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2564 โดยมีพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบในหลักการจัดตั้งบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจ 2 แห่ง ได้แก่ บริษัทในเครือของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)คือ บริษัท MEA Smart Energy Solutions จำกัด 

 

เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการให้บริการให้คำปรึกษาการออกแบบ ติดตั้ง บำรุงรักษา และลงทุนด้านการบริหารจัดการระบบพลังงานทดแทน (Renewable Energy) และระบบพลังงานแบบอัจฉริยะ (Smart Energy) แบบครบวงจรเพื่อรองรับการเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดย กฟน. จะถือหุ้น 100%

 

ปานทิพย์ ศรีพิมล ผอ.สคร.

 

และจัดตั้งบริษัทในเครือของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อพัฒนาต่อยอดผลงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมของ กฟผ. และกลุ่ม กฟผ.สู่เชิงพาณิชย์ และลงทุนในธุรกิจพลังงานเพื่ออนาคต (Future Energy) โดย กฟผ. จะถือหุ้น 40% ของบริษัทในเครือดังกล่าว และมีบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด(มหาชน) (EGCO) และบริษัท  ราชกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (RATCH) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ กฟผ. ร่วมถือหุ้นด้วยแห่งละ 30% 

ทั้งนี้ที่ประชุมได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ เพื่อพิจารณากลั่นกรองและเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจให้แก่ คนร.  โดยมีนายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน คนร. เป็นประธานอนุกรรมการ

 

ในชั้นนี้คนร.จะกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาของรัฐวิสาหกิจ 4 แห่งได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (บมจ. เอ็นที) และบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (บมจ. อสมท) อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การแก้ไขปัญหาของรัฐวิสาหกิจได้รับการผลักดัน อย่างต่อเนื่อง

 

และเห็นชอบหลักเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ โดยกำหนดให้มีการประเมินผล การดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจใน 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการดำเนินงานตามนโยบายและภารกิจตามยุทธศาสตร์  2) ด้านผลการดำเนินงาน (การเงินและไม่ใช่การเงิน) และ 3) ด้านการบริหารจัดการองค์กรตาม Core Business Enablers

 

ทั้ง 8 หัวข้อ และให้เริ่มใช้หลักเกณฑ์การประเมินผลดังกล่าวตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป เพื่อกำกับติดตาม และเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งยกระดับการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจให้เชื่อมโยงระหว่างความคาดหวังตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดกับความรับผิดชอบระดับองค์กรและระดับรายบุคคลของรัฐวิสาหกิจ

นอกจากนี้ คนร. ได้รับทราบความคืบหน้าในการจัดทำแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นแผนที่จะกำหนดเป้าหมาย นโยบาย และทิศทางในการพัฒนารัฐวิสาหกิจในระยะ 5 ปี ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนต่างๆ ในภาพรวมของประเทศ โดยแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจจะมีระยะเวลาสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) และคาดว่าจะสามารถประกาศใช้ในช่วงต้นปี 2565 เพื่อให้รัฐวิสาหกิจนำไปประกอบการจัดทำแผนวิสาหกิจ 5 ปี และแผนปฏิบัติการประจำปีให้สอดคล้องต่อไป