ม.มหิดล พัฒนาแอป"กินยาแล้ว"

25 ก.พ. 2564 | 14:12 น.

ม.มหิดล พัฒนาแอป"กินยาแล้ว" เชื่อมนวัตกรรมจัดยาด้วยระบบ AI ตรวจสอบความถูกต้องการจัดยา เพื่อลดความแออัดของโรงพยาบาล และลดการติดเชื้อของเจ้าหน้าที่จัดยา เผยโครงการที่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการพัฒนา

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นริศ หนูหอม รองหัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ร่วมวิจัยในคลัสเตอร์ดิจิทัล ของเครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย (Research University Network Thailand หรือ RUN) กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมหิดลได้มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะเร่งพัฒนางานวิจัย และนวัตกรรมต่างๆ โดยอาศัยความร่วมมือจากหลากหลายหน่วยงานทั้งภายใน และภายนอก เพื่อแก้ไขปัญหา และบรรเทาวิกฤติต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 โดยได้ร่วมสร้างนวัตกรรมระบบข้อมูลยา จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาแอปพลิเคชัน "กินยาแล้ว" เพื่อตรวจสอบชนิดยา และแจ้งเตือนการกินยา ซึ่งจัดทำเสร็จสิ้น และอยู่ในระหว่างการทดลองใช้ และโครงการพัฒนาระบบอัตโนมัติ AI สำหรับตรวจสอบความถูกต้องของการจัดยา เพื่อลดความแออัดของโรงพยาบาล และลดการติดเชื้อของเจ้าหน้าที่จัดยา ซึ่งเป็นโครงการที่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการพัฒนา

ม.มหิดล พัฒนาแอป"กินยาแล้ว"

จุดเด่นของแอปพลิเคชัน "กินยาแล้ว" คือการสามารถอ่านข้อมูลจาก QR Code เพื่อดึงข้อมูลรายการยาเข้าสู่ระบบการแจ้งเตือนเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยลืมกินยา อีกทั้งช่วยให้ผู้ดูแลสามารถทราบเวลาที่จะต้องจัดเตรียมยาให้ผู้ป่วย หรือย้ำเตือนผู้ป่วยไม่ให้ลืมกินยา สำหรับอีกโครงการเป็นการพัฒนาต่อยอดจากโครงการแรก โดยเชื่อมโยงระบบยาจากโรงพยาบาลสู่ผู้ป่วยผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ซึ่งผู้ป่วยสามารถนำ QR Code ที่สร้างจาก Platform ไปรับยาจากร้านขายยาใกล้บ้านได้โดยไม่ต้องรอคิวรับยาที่โรงพยาบาล ซึ่งมีกลไกตรวจสอบความถูกต้องของการจัดยาด้วยระบบอัตโนมัติ AI โดยทีมผู้วิจัยจะดำเนินการยื่นจดสิทธิบัตรทางนวัตกรรมต่อไป


ผู้ป่วยมีความคาดหวังต่อการบริการดูแลรักษาสุขภาพที่มีความสะดวกสบาย และการเข้าถึงบริการที่ง่ายและรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤติ COVID-19 ที่โรงพยาบาลมีความแออัด ซึ่งระบบ AI จะเข้ามาช่วยลดความคลาดเคลื่อนในการจัดยา ตลอดจนช่วยแบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์เพื่อให้มีเวลามากขึ้นสำหรับการวางแผนเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ COVID-19 ที่เกิดขึ้นได้ต่อไป 

"คนที่อยู่รอดไม่ใช่คนที่ฉลาดที่สุด แต่เป็นคนที่ปรับตัวได้ดีที่สุด อนาคตจะเป็นอย่างไรอยู่ที่เราปรับตัว วิกฤติ COVID-19 ที่ผ่านมา ทำให้เราได้เรียนรู้ และปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ รอบตัว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หากพวกเราคนไทยพร้อมร่วมแรงร่วมใจสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศไทย สุดท้ายเชื่อว่าเราก็จะสามารถผ่านวิกฤติต่างๆ ไปได้ในที่สุด" ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นริศ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง