ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน EASY INVEST บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS)ระบุว่า สัปดาห์นี้แนะนำติดตามการประกาศตัวเลขจีดีพีของไทยและญี่ปุ่น ส่วนฝั่งสหรัฐมีการประกาศตัวเลขการค้าปลีกเริ่มต้นเช้าวันจันทร์จะมีการรายงานตัวเลขจีดีพี ไตรมาสที่สี่ของญี่ปุ่นคาดว่าจะขยายตัว2.4% จากไตรมาสก่อน โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเกิดขึ้นช้าลงในช่วงปลายปีจากการกลับมาระบาดใหม่ของไวรัสโควิด-19 ส่วนฝั่งประเทศไทยตลาดคาดว่าจีดีพีจะขยายตัว 0.8% จากไตรมาสก่อน ถือเป็นการหดตัว 5.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ต่อมาในวันพุธ จะมีการรายงานตัวเลขค้าปลีกในสหรัฐ (Retail Sales) ที่คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้น 0.7% เทียบกับช่วงปลายปีที่แล้วจากเงินช่วยเหลือของภาครัฐ พร้อมกับยอดขายรถยนต์ที่ฟื้นตัวขึ้นช่วงต้นปีใหม่
ส่วนฝั่งตลาดเงิน ระยะสั้นกลับมาเห็นภาพดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงอีกครั้ง โดยในสัปดาห์นี้เชื่อว่าตลาดจะกลับมาจับตาที่การผ่านนโยบายการคลัง รายงานการประชุม FOMC ครั้งล่าสุดที่จะประกาศในวันพุธ รวมไปถึงความเคลื่อนไหวในตลาดทุน มองว่าสัปดาห์นี้อาจยังไม่สามารถสรุปเรื่องแผนกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ขณะที่ถ้า FOMC มีการหารือเรื่องเงื่อนไขเวลาในการลดนโยบาย QE ในอนาคตก็อาจกดดันให้ตลาดพักฐานและดอลลาร์แข็งค่ากลับได้
กรอบดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) สัปดาห์นี้ 90.00-91.00 จุด ระดับปัจจุบัน 90.45 จุด
ด้านอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทช่วงนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ แม้จะมีผู้ส่งออกกลับเข้ามาในตลาดมากขึ้นแต่นักลงทุนต่างชาติทยอยขายหุ้นและบอนด์ไทยอยู่ ในสัปดาห์นี้ต้องจับตารายงานตัวเลขจีดีพีก่อน เชื่อว่าถ้าไม่แย่กว่าคาดจะหนุนให้เงินบาทสามารถทรงตัวตามสกุลเงินเอเชียอื่น ๆ ได้ อย่างไรก็ดี การจะเห็นเงินบาทแข็งค่า หรือมีเงินทุนต่างชาติกลับเข้า อาจต้องรอหลังจากที่เริ่มมีการแจกจ่ายวัคซีนและเห็นการฟื้นตัวของภาคการผลิตพร้อมกันทั้งเอเชียก่อน
กรอบเงินบาทรายสัปดาห์ 29.65-30.15 บาทต่อดอลลาร์
ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเช้านี้ (15 ก.พ.) ทรงตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 29.87 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยตลาดรอติดตามปัจจัยใหม่ๆ มากระตุ้น ขณะที่กรอบการฟื้นตัวของเงินดอลลาร์ฯ เริ่มจำกัดลงท่ามกลางบรรยากาศสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งยังคงได้รับแรงหนุนจากความหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนต้านโควิด 19 ทั่วโลก
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ คาดไว้ที่ 29.80-30.00 โดยจุดสนใจของตลาดน่าจะอยู่ที่ตัวเลขจีดีพี 4Q-63 ของไทยในวันนี้ และบันทึกการประชุมเฟดในช่วงกลางสัปดาห์