รัฐบาลอนุญาตินั่งรับประทานอาหารได้เวลา21.00น.จากมาตรการป้องกันโควิด-19ระบาดรอบใหม่ส่งผลให้ ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ และอาจทยอยปิดกิจการมากขึ้น หากไม่ได้รับผ่อนปรน พร้อมกันนี้ได้ขออนุโลมให้ร้านอาหารสามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพิ่มด้วยเช่นกัน ภายหลัง สมาคมภัตตาคารไทย โดยนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ได้ทำหนังสือยื่นถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ขอความกรุณาผ่อนปรนให้ร้านอาหารนั่งได้ถึงเวลา 23.00 น. โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า เนื่องด้วยคําสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)
ฉบับล่าสุดอนุญาตให้ลูกค้าสามารถนั่งรับประทานอาหารในร้านได้ถึงเวลา 21:00 น. ซึ่งยังสร้างผลกระทบให้กับยอดขายของร้านอาหารตั้งแต่ระดับร้านอาหารริมทางจนถึงร้านอาหารภัตตาคาร ในแง่ของจิตวิทยาและสภาพชีวิตการทํางานของลูกค้าทําให้ลูกค้าไม่สะดวกและตัดสินใจไม่นั่งรับประทานอาหารในร้านอาหารด้วยเงื่อนไขของเวลา
จากสองอาทิตย์ที่ผ่านมาภายใต้คําสั่งดังกล่าวทําให้ยอดขายของร้านอาหารหายไปไม่ต่ำกว่า 70 %ทําให้รายได้ ไม่เพียงพอต่อการดําเนินธุรกิจและจะมีผลต่อการว่าจ้างงานภายในสิ้นเดือนม.ค.นี้ ซึ่งจะทําให้เกิดการเลิกว่าจ้างงาน พนักงาน และลดเงินเดือนของพนักงานอย่างแน่นนอน ประกอบกับรัฐบาลยังไม่ได้มีมาตราการใดๆออกมาเพื่อช่วยเหลือ ผู้ประกอบการ SME ใดๆเลยทั้งสิ้น เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่มเดือนธ.ค.ผู้ประกอบการมีรายได้ไ้ม่เพียงพอต่อการจ่ายหรือ แม้กระทั่งค่าใช้จ่ายในการซื้อวัตถุดิบสินค้าภาคการเกษตร
อย่างไรก็ตาม เพียงสองสัปดาห์ผู้ประกอบการ SME ร้านอาหารได้ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถปฎิบัติตามมาตราการมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขได้เป็นอย่างดี ซึ่งได้ร่วมมือกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ออกตรวจสอบมาตรฐานความ ปลอดภัยโดยตลอด ซึ่งจากการรายงานของ ศบค.ไม่มีผู้ติดโควิดที่สาเหตุต้นกําเนิดมาจากร้านอาหารเลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง