“ดีอีเอส-ทศพล-แรมโบ้”แจ้งความเอาผิด“ธนาธร” ม.112 ปมพาดพิงสถาบัน

20 ม.ค. 2564 | 08:40 น.

“ดีอีเอส-ทศพล-แรมโบ้”แจ้งความเอาผิด “ธนาธร” ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังไลฟ์สดพาดพิงสถาบัน ปมวัคซีนโควิด-19 


วันนี้ (20 ม.ค.64) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) มอบหมายนายเนวินธุ์  ช่อชัยทิพฐ์ ผู้ช่วยรมว.ดิจิทัลฯ ร่วมกับ นายทศพล เพ็งส้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เข้ายื่นแจ้งความเอาผิด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  ประธานคณะก้าวหน้า  


ภายหลัง นายธนาธร ทำการไลฟ์สด ผ่านทางเพจคณะก้าวหน้า และสำนักงานข่าวบีบีซีไทย ได้ร่วมกันโฆษณาแนะนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยจงใจโจมตีวัคซีนพระราชทานเพื่อหวังผลทางการเมือง 


การกล่าวหาดังกล่าวถือเป็นการกระทำความผิดฐาน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทางยาท หรือผู้สำเสร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และกระทำการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน  ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์   มาตรา 14 อนุ 1  
                                                    แจ้งความเอาผิด ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ


นายทศพล กล่าวว่า เรามาในฐานะคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยรับมอบหมายจากนายพุทธิพงษ์ ที่มอบหมายให้ตนรวบรวมพยานหลักฐานมาแจ้งความเอาผิดนายธนาธร หลังจากดูการแถลงข่าว เนื่องจากการวิจารณ์รัฐบาลเรื่องการนำเข้าการผลิตวัคซีน ที่กล่าวหารัฐบาลเรื่องประสิทธิภาพ คุณภาพ การผลิตล่าช้า และจำหน่ายให้กับประชาชน อีกทั้งในการแถลงข่าวว่ามีสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นการนำประชาชนมาเป็นตัวประกันระหว่างรัฐบาลกับสถาบัน ซึ่งไม่เป็นความจริง ดังนั้นทางทีมงานจึงเข้ามาดำเนินการ แจ้งความกล่าวโทษกับนายธนาธร 


นายทศพล กล่าวอีกว่า ทางทีมเจ้าหน้าที่ได้แกะคลิปวีดิโอไลฟ์สดกว่า 30 นาที รวมแล้ว 11 วรรคตอน โดยเฉพาะนาทีที่ 3 จนถึงนาทีที่ 28.10 น. ซึ่งถ้าหากฟังแต่ละช่วง โดยถ้าไม่ได้ดูคลิปโดยรวมทั้งหมด ก็จะเชื่อว่าสถาบันเข้าไปเกี่ยวข้องกับวัคซีน ซึ่งได้มีการย้ำโดยเฉพาะในช่วงที่มีการพูดถึงการถือหุ้น 100% และโยงเรื่องทุนต่างๆ ซึ่งไม่ถูกต้อง 


โดยรายละเอียดเนื้อหาในช่วงแต่ละประเด็นเราได้เตรียมให้ทางพนักงานสอบสวนดูแล้ว พร้อมกันนี้ทางทีมงานก็ได้นำข้อมูลเมื่อวานนี้ (19 ม.ค.) ที่หน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก็ได้ออกมาชี้แจงประเด็นที่นายธนาธร พูดเปรียบเทียบกับสิ่งที่นายธนาธร พูดนั้นไม่เป็นความจริง มีการบิดเบือนทำให้ประชาชนเชื่อทำให้เข้าใจผิด และตื่นตระหนก ซึ่งภาครัฐได้ชี้แจงในประเด็นต่างๆ ไปแล้ว ก็มีคนติดต่อสอบถามมายังตนว่า มีสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องจริงหรือไม่ 


“ผมยืนยันว่าสถาบันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตวัคซีน และที่สำคัญยังไปดูถูกว่ารัฐบาลมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการที่จะนำวัคซีนที่มีคุณภาพมาให้กับประชาชนได้หรือไม่”


ทั้งนี้จะดำเนินการคดีกับทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ใช่เฉพาะแค่ นายธนาธร ทั้งในส่วนคดี ม.112 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยจะเร่งรัดติดตามอย่างต่อเนื่อง ว่าพนักงานสอบจะดำเนินการเสร็จเมื่อใด โดยมีคณะทำงานติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด  


อีกทั้งเรื่องนี้ได้มีการนำเรื่องวัคซีนกับสถาบันเข้ามาเชื่อมโยงเป็นเรื่องเดียวกัน ทำให้ถูกดูถูก ดูหมิ่น และเกลียดชังจากประชาชน ซึ่งสถาบนไม่มีโอกาสที่จะมาชี้แจง ตนจึงต้องมาชี้แจงให้กับประชาชนได้รับรู้ 


ส่วนกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งคำถามเรื่องงบประมาณเกี่ยวกับวัคซีนนั้น ตนมองว่าการชี้นำกับการตั้งคำถามนั้นต่างกัน กรณีนี้เป็นการชี้นำที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด

 

ด้านนายสุภรณ์ กล่าวว่า ตนผิดหวังในตัวนายธนาธร ที่พยายามบิดเบือนคำพูดทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ตระหนก เพื่อประโยชน์ตีกินทางการเมือง  ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็เน้นย้ำหากมีใครบิดเบือนนำข่าวเท็จมากล่าวหาดูหมิ่น ก็คงไม่ปล่อยไว้ ต้องดำเนินการตามกฎหมาย


ส่วนนายเนวินธุ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าจะมีการดำเนินการเอาผิดกับคนที่ทำความผิดในม.112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กระทรวงดีอีเอส จะดูว่าการทำผิดของนายธนาธร มีการล่วงเกินถึงสถาบัน และบิดเบือนข่าวเพียงใด ซึ่งกระทรวงดีอีเอส จะมีการยืนให้ดำเนินการปิดทุกแพลตฟอร์ม โดยเร็วที่สุด รวมทั้งผู้ที่บิดเบือนข่าววัคซีน 


ทั้งนี้การบิดเบือนสามารถพิสูจน์ความผิดได้ โดยจะเริ่มจากช่องทางเฟซบุ๊กก่อน ที่จะยื่นขอให้ปิด ทั้งนี้ในส่วนของการแชร์ต่อ และผู้ที่เป็นต้นโพสต์ก็มีความผิดทั้งสิ้น จึงอยากฝากให้ประชาชนได้ตระหนักว่าข่าวดังกล่าวเป็นข่าวปลอม และอย่าแชร์ต่อ


ทั้งนี้ พ.ต.อ.ทองศูนย์ อุ่นวงค์ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ในฐานะเจ้าของคดี ได้รับหนังสือเพื่อดำเนินการตรวจสอบตามกฎหมายต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง;

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ “ปากพาจน”

นายกฯซัด“ธนาธร”บิดเบือนปมวัคซีน สั่งลุยดำเนินคดีแพร่ข้อมูลเท็จ