"ในหลวง-ราชินี" ทรงเปิดศาลหลักเมืองพัทลุง พสกนิกรเฝ้าฯ รับเสด็จเนืองแน่น

28 พ.ย. 2563 | 14:22 น.

"ในหลวง-ราชินี" ทรงเปิดศาลหลักเมืองพัทลุง พสกนิกรเฝ้าฯ รับเสด็จเนืองแน่น

28 พฤศจิกายน 2563 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเปิดศาลหลักเมืองพัทลุง พร้อมทั้งทรงเยี่ยมประชาชนจังหวัดพัทลุงและจังหวัดใกล้เคียง

 

เมื่อเวลา 16 นาฬิกา 24 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับเครื่องบินพระที่นั่งถึงยังท่าอากาศยานตรัง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง โดยมีนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดตรัง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมด้วย​ ข้าราชการ และประชาชนในพื้นที่จังหวัดตรัง ไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ เมื่อทรงตรวจแถวกองทหารเกียรติยศแล้ว ประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปยังเทศบาลตำบลนาโยงเหนือ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง​

 

เวลา 17 นาฬิกา 14 นาที​ เสด็จพระราชดำเนินถึงยังเทศบาลตำบลนาโยงเหนือ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง​ ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว​ ทรงรับเทียนชนวนจากเจ้าพนักงานงานพระราชพิธี ทรงจุดเทียนชนวนที่โคมไฟฟ้าแล้วพระราชทานเทียนชนวนที่ทรงจุดแก่ นายไพบูลย์ โอมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เพื่อนำไปสักการะพระพุทธจอมไตร ณ วัดจอมไตร จังหวัดตรัง โดยมีข้าราชการ​ พร้อมด้วย​ประชาชนจำนวนมากมารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ​เพื่อชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด

 

 "ในหลวง-ราชินี" ทรงเปิดศาลหลักเมืองพัทลุง พสกนิกรเฝ้าฯ รับเสด็จเนืองแน่น

จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดศาลหลักเมืองพัทลุง ตั้งอยู่บริเวณวัดควนปรง หมู่ที่ 2 ตำบลท่ามิหรำ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ในการนี้ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธนวราชบพิตร ทรงกราบ ทรงศีล จากนั้นได้ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นยันต์ ทรงม้วนแผ่นยันต์ แล้วสวมแหวนนพรัตน์ที่ม้วนยันต์ เสร็จแล้วพระราชทานแผ่นยันต์ที่จะบรรจุหัวเม็ดทรงมัณฑ์ คืนเจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญไปยังศาลหลักเมือง จากนั้นเสด็จขึ้นเกยศาลหลักเมือง ทรงหยิบแผ่นยันต์จากเจ้าพนักงานภูษามาลา แล้วทรงบรรจุลงที่หัวเม็ดทรงมัณฑ์ ทรงสวมยอดหัวเม็ดทรงมัณฑ์ที่ยอดเสาศาลหลักเมือง ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม ทรงปิดทอง ทรงผูกผ้าสีชมพู ทรงคล้องพวงมาลัยเสาหลักเมือง แล้วเสด็จลงจากเกย

 

ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะศาลหลักเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุงเป็นเมืองโบราณที่ มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน แม้จะเคยมีหลักเมืองเป็นศูนย์กลางของเมืองมาก่อน แต่เนื่องจากมีการย้ายที่ตั้งหลายครั้ง ทำให้หลักฐานเกี่ยวกับหลักเมืองไม่ชัดเจน แม้จะมีร่องรอยอยู่บ้าง เช่น โคกบางแก้ว เมืองเก่าชัยบุรี และเมืองเก่าบ้านลำปำ ซึ่งชำรุดผุพังไปตามกาล หลังจากย้ายเมืองพัทลุงไปตั้งที่อื่นในแต่ละครั้ง ครั้งสุดท้ายเมื่อพุทธศักราช 2466 ย้ายมาอยู่ที่ตำบล คูหาสวรรค์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งเมืองพัทลุงในปัจจุบันก็ยังไม่มีการสร้างศาลหลักเมืองแต่อย่างใด


 "ในหลวง-ราชินี" ทรงเปิดศาลหลักเมืองพัทลุง พสกนิกรเฝ้าฯ รับเสด็จเนืองแน่น

 "ในหลวง-ราชินี" ทรงเปิดศาลหลักเมืองพัทลุง พสกนิกรเฝ้าฯ รับเสด็จเนืองแน่น

เมื่อพุทธศักราช 2553 ชาวพัทลุงและผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ร่วมกันบริจาคทรัพย์เพื่อสมทบทุนการก่อสร้างศาลหลักเมือง โดยจังหวัดพัทลุง ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้จัดสร้างศาลหลักเมืองประจำจังหวัดพัทลุง เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 50 ปี เมื่อปี 2539 โดยจัดสร้างศาลหลักเมืองและเสาหลักเมืองประจำจังหวัดพัทลุงเมื่อปี 2553 แล้วเสร็จปี 2554 ซึ่งได้ทำพิธีพลีดินหรือขอนำเอาดินจากเมืองเก่ามารวมไว้ในสถานที่จัดสร้างหลักเมืองเพื่อแสดงถึงการเคารพบูชา และอัญเชิญเจ้าเมือง พระทรงเมือง พระเสื้อเมือง เทวดาอารักษ์ สิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งหลายมาปกป้องคุ้มครองและเสริมความเจริญรุ่งเรืองให้กับบ้านเมืองโดยนำดินมาจากสถานที่ตั้งในเมืองเก่าพัทลุงในอดีต จำนวน 10 แห่ง รวมทั้งมีพิธีบวงสรวงพิธีพลีต้นไม้เพื่อนำไปทำเสาหลักเมือง

 

 "ในหลวง-ราชินี" ทรงเปิดศาลหลักเมืองพัทลุง พสกนิกรเฝ้าฯ รับเสด็จเนืองแน่น

ต่อมาได้ดำเนินการปรับปรุงองค์ประกอบของศาลหลักเมืองเพิ่มเติมโดยก่อสร้างบันไดทางขึ้น ระบบไฟฟ้าส่องสว่าง รวมถึงซ่อมแซมอาคารศาลหลักเมืองและปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยรอบจนแล้วเสร็จสมบูรณ์เมื่อเดือนกันยายน 2562 อาคารศาลหลักเมืองพัทลุง ออกแบบโดยรองศาสตราจารย์ ภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (สถาปัตยกรรม) ปี 2537 ซึ่งได้ออกแบบเป็นศิลปะทางภาคใต้เฉพาะจังหวัดพัทลุง มีลักษณะเป็นอาคารจัตุรมุข ฉาบปูนปั้น ทาสี หลังคาศิลปะทรงภาคใต้ มียอดปรางค์ พรหมพักตร์สี่หน้า โอกาสนี้ ทรงปลูกต้นพะยอม ต้นไม้ประจำจังหวัดพัทลุง เป็นไม้ยืนต้น มีเนื้อไม้แข็งสีเหลืองอ่ อนแกมสีเขียว ออกดอกช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ เป็นช่อขนาดใหญ่สีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอม

 

พร้อมกันนี้ พระราชทานของที่ระลึกแก่ผู้มีอุ ปการคุณในการบูรณะซ่อมแซมศาลหลักเมืองพัทลุง ต่อจากนั้น ทรงเยี่ยมประชาชนชาวพัทลุง ที่ไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ โดยจังหวัดพัทลุงเป็นจังหวัดแรกทางภาคใต้ที่หลังพระราชพิธี บรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาทรงปฏิบัติ พระราชกรณียกิจ ยังความปลาบปลื้มใจให้กับชาวจังหวัดพัทลุง


 "ในหลวง-ราชินี" ทรงเปิดศาลหลักเมืองพัทลุง พสกนิกรเฝ้าฯ รับเสด็จเนืองแน่น

ในระหว่างเส้นทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่งผ่านประชาชนจากพื้นที่ต่างๆในจังหวัดพัทลุง ต่างโบกธงชาติ ธงพระปรมาภิไธย วปร. และธงพระนามาภิไธย สท. และได้พร้อมใจกันเปล่งเสียงถวายพระพร “ทรงพระเจริญ”

 

นอกจากนี้มีพระสงฆ์จากวัดต่างๆในพื้นที่จังหวัดพัทลุง เช่น วัดบ้านสวน วัดภูเขาทอง วัดลานแซะ และวัดคูหาสวรรค์ ไปเฝ้า พร้อมทั้งได้ถวายพระพุทธรูป ตลอดจนมีประชาชนจำนวนมาในพื้นที่ภาคใต้จากจังหวัดใกล้เคียง เช่น จังหวัดสงขลา จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดสุราษฎรธานี รวมทั้งมีประชาชนจังหวัดปัตตานี ตั้งใจไปร่วมเฝ้าทูลละอองธุลี พระบาทรับเสด็จ ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางมาจับจองพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้าและต่างดีใจที่ได้มีโอกาสเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเป็นครั้งแรก แม้จะอากาศร้อน มีระยะเวลารอคอยนายก็ไม่ย่อท้อที่จะรอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กองแพทย์หลวงร่วมกับโรงพยาบาลพัทลุง โรงพยาบาลควนขนุน หน่วยแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง มาให้การดูแลประชาชนที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ รวมทั้งยังพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ ถูกสุขอนามัย พระราชทานเลี้ยงแก่ประชาชน

 

 "ในหลวง-ราชินี" ทรงเปิดศาลหลักเมืองพัทลุง พสกนิกรเฝ้าฯ รับเสด็จเนืองแน่น

 "ในหลวง-ราชินี" ทรงเปิดศาลหลักเมืองพัทลุง พสกนิกรเฝ้าฯ รับเสด็จเนืองแน่น