นายกฯ ใช้เวที “สภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน” ดันไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุน

25 พ.ย. 2563 | 06:01 น.

นายกฯ ประชุมสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางลงทุนระดับภูมิภาค

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เข้าร่วมประชุมกับ สภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน ที่กระทรวงการต่างประเทศ เช้านี้ (25 พ.ย. เวลาประเทศไทย) โดยนายกรัฐมนตรี เริ่มการประชุมด้วยการทักทายนักธุรกิจสหรัฐอเมริกาในประเทศไทย และผู้ที่ร่วมประชุมทางไกลผ่านระบบ Video Conference

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม

นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ไทยและสหรัฐมีความสัมพันธ์อันดีมายาวนานเกือบ 200 ปี และไทยก็หวังรักษาให้ความสัมพันธ์นี้มีความยั่งยืนสืบไป ในฐานะที่สหรัฐเป็นเพื่อนเก่าและมิตรประเทศที่มีความสำคัญกับไทยและอาเซียน

 

พร้อมกันนี้ได้ชื่นชมเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ที่มีบทบาทอย่างแข็งขัน ในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและสหรัฐ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย จะมีการเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างทั้ง 2 ประเทศมากขึ้น

 

"ในวันนี้เป็นการพบกันเพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความจริงใจที่มีระหว่างกัน จึงขอเชิญชวนนักลงทุน ทั้งที่ได้ลงทุนในไทยแล้ว และที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจ ให้พิจารณาประเทศไทยด้วย" พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในช่วงหนึ่งของการประชุม

 

สำหรับการประชุมครั้งนี้ เป็นรูปแบบการประชุมกึ่งออนไลน์ ที่มีทั้งประชุมผ่านระบบทางไกลจากสหรัฐอเมริกาและในไทย รวมถึงผู้ที่เดินทางมาเข้าร่วมประชุมด้วยตนเอง โดยมีผู้บริหารและผู้แทนภาคเอกชนเข้าร่วมจำนวน 89 คน จาก 38 บริษัท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลเตรียมรับสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียนพบนายกฯพรุ่งนี้ มั่นใจไทยยังน่าลงทุน

พลิกโควิดเป็นโอกาส 3 บิ๊กทุนต่างชาติทุ่ม1.5หมื่นล้านปักหมุดอสังหาในไทย

ทูตสหรัฐฯมั่นใจไทยมีจุดแข็ง พร้อมดึงนักลงทุนใหม่เข้าอีอีซี

ไทยอยู่ในอันดับ1 ของประเทศที่เหมาะ เริ่มต้นทำธุรกิจ

 

แบ่งเป็น 8 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ พลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สุขภาพ วิทยาศาสตร์ อาหารและการเกษตร การผลิตและภาษี การบริการทางการเงิน การท่องเที่ยว และการคมนาคม เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในอนาคตภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ในไทยเริ่มคลี่คลายลง รวมทั้ง การส่งเสริมให้นักธุรกิจสหรัฐเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น และผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาคอย่างเต็มที่