กมธ.CPTPP จี้เพิ่มงบวิจัยข้าว เพิ่มพันธุ์บริสุทธิ์ 8.4 แสนตัน/ปี

สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเห็นชอบข้อเสนอรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) พิจารณาศึกษาผลกระทบจากการเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) รวมถึงมีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะให้รัฐบาลเร่งเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเข้าร่วม-ไม่เข้าร่วมการเจรจาต่อไปนั้น

หนึ่งในประเด็นผลกระทบด้านการเกษตรและพันธุ์พืช ซึ่งเป็นข้อกังวลของหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบต่อเกษตรกรรายย่อยและเอสเอ็มอีด้านการเกษตรของไทยได้มีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะที่สำคัญในหลายเรื่อง ที่สำคัญอาทิ รัฐต้องสนับสนุนงบฯและอัตราบุคลากรด้านการปรับปรุงพันธุ์และด้านการผลิตเมล็ดพันธุ์แก่กรมการข้าว และให้แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืชให้มีผลใกล้เคียงกับหลักการของอนุสัญญา UPOV 1991 และอนุสัญญาอื่นที่ประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก และให้เหมาะสมกับบริบทวิถีชีวิตและสังคมเกษตรกรรมไทย เป็นต้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

CPTPP “ไบเดน” มาแน่ ไทย จะเอาอย่างไร

RCEP เดินหน้าสะเทือนมะกัน บีบ‘ไบเดน’เร่งคานอำนาจจีน

จากปาก“วีระกร คำประกอบ” คืบหน้า CPTPP ไทย ถึงไหนแล้ว

เปิดผลศึกษา CPTPP ไทยยังไม่พร้อมเข้าร่วม (1)

เปิดผลศึกษา CPTPP ไทยยังไม่พร้อมเข้าร่วม (2) ข้อเสนอด้านเกษตร

ผลศึกษา CPTPP ไทยยังไม่พร้อมเข้าร่วม (3) ผลกระทบเศรษฐกิจ

นายวีระกร คำประกอบ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ(กมธ.) พิจารณาศึกษาผลกระทบจากการเข้าร่วมความตกลง CPTPP เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การพัฒนาพันธุ์ข้าวถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่รัฐบาลต้องกลับมาให้ความสำคัญอย่างจริงจัง รวมถึงต้องให้งบประมาณ และบุคลากรแก่กรมการข้าวที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาส่วนนี้เพิ่ม ทั้งนี้ที่ผ่านมารัฐบาลได้ให้งบกรมการข้าวเพื่อวิจัยพัฒนาพันธุ์ข้าวลดลงทุกปี จากปีงบประมาณ 2560 ให้งบ 260 ล้านบาท ปีงบ 2564 ล่าสุดเหลือ 149 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2565 ได้เตรียมขอไป 400 ล้านบาท ยังไม่ทราบว่าจะถูกตัดเหลือเท่าใด

“ไทยต้องเตรียมความพร้อมประเทศหากจะเข้าร่วม CPTPP รวมถึงกรอบการค้าเสรีต่างๆ ในอนาคตเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรคนส่วนใหญ่ของประเทศ ปัจจุบันศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวของกรมการข้าวทั่วประเทศมี 28 ศูนย์ แต่ได้งบน้อยมากแล้วเราจะไปแข่งอย่างไร (เวียดนามใช้งบวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวปีละกว่า 3,000 ล้านบาท) เพราะเมล็ดพันธุ์ข้าวที่กรมการข้าวผลิตให้กับเกษตรกร เมื่อใช้ไป 3-4 ปี พันธุ์จะเริ่มเพี้ยนและไม่บริสุทธิ์จากมีพันธุ์อื่นปลอมปน ทำให้ผลผลิตต่อไร่ลดลงเรื่อย ๆ”

ดังนั้นภายใน 3 ปีนับจากนี้ไปรัฐบาลต้องสนับสนุนงบประมาณและบุคลากรให้กรมการข้าวเพิ่ม (จากปัจจุบันนักวิจัยพันธุ์ข้าวของกรมการข้าวมีเพียง 38 คน ขณะที่เวียดนามมีนักวิจัยพันธุ์ข้าวเป็นพันคน และกำลังพัฒนาก้าวไกลกว่าไทยมาก ทั้งนี้ เพื่อให้กรมการข้าวสามารถนำเชื้อพันธุ์ข้าวที่รวบรวมไว้กว่า 2.4 หมื่นสายพันธุ์มาพัฒนาต่อยอดและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวบริสุทธิ์ให้กับเกษตรกร เพื่อให้มีเมล็ดพันธุ์ใหม่ใช้สัดส่วนอย่างน้อย 60% (ประมาณ 8.4 แสนตัน) ของปริมาณเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรใช้ประมาณ  1.4 ล้านตันต่อปี จากปัจจุบันผลิตได้เพียง 30% ของความต้องการใช้เท่านั้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หน้า 9 ฉบับที่ 3629 วันที่ 22-25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563