คนละครึ่งรอบ2 คลังฯย้ำอีกรอบร้านค้าอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคา

12 พ.ย. 2563 | 03:01 น.

ลงทะเบียนคนละครึ่งรอบ2 มีผู้ลงทะเบียนครบแล้ว 10 ล้านสิทธิ ด้าน กระทรวงการคลัง กำชับประชาชนและร้านค้าปฏิบัติตามเงื่อนไขห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคา

วันที่ 12 พ.ย. จากกรณีที่กระทรวงการคลังเปิดให้ลงทะเบียนคนละครึ่งรอบ2 เมื่อวันที่ 11.11 เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนคนละครึ่งรอบ2 บน

www.คนละครึ่ง.com  เปิดให้ลงทะเบียนคนละครึ่งตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. ปรากฏว่ามีผู้ลงทะเบียนครบ 2.5 ล้านสิทธิภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมงเท่านั้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดบทสรุปมาตรการ "ชิมช้อปใช้"ช่วยดันศก.ไทยขยายตัว

ลงทะเบียนคนละครึ่ง รอลุ้นอีก 14 วัน ได้สิทธิแล้วไม่ใช้

ลงทะเบียนคนละครึ่งรอบ2 ยืนยันตัวตนคนละครึ่งไม่ผ่าน ATM กรุงไทยมีตัวช่วย

"คนละครึ่ง" เคล็ดลับใช้ แอป "เป๋าตัง" เปิด G-Wallet แก้ปัญหายืนยันตัวตน

 

 

ความคืบหน้าล่าสุดนายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่ง ซึ่งเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเพิ่มเติม จำนวน 2.5 ล้านสิทธิ ภายใต้กลุ่มเป้าหมาย 10 ล้านสิทธิ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 (11/11) ผ่านเว็บไซต์ คนละครึ่ง มีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งอย่างมากและลงทะเบียนครบจำนวนในเวลาอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ระบบจะทำการตรวจสอบและส่ง SMS แจ้งผลการลงทะเบียนภายใน 3 วัน สำหรับยอดลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบและยอดผู้ที่ได้รับสิทธิที่ถูกตัดสิทธิจากการไม่ใช้จ่ายภายใน 14 วัน จะมีการรวบรวมมาเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนใหม่ต่อไป

 

รองโฆษกกระทรวงการคลังได้ย้ำว่า ประชาชนที่ลงทะเบียนสำเร็จและได้รับ SMS ยืนยันสิทธิแล้วขอให้รีบติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” รวมทั้งยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย โดยท่านสามารถเติมเงินจำนวนเท่าใดก็ได้ตามต้องการเข้าไปในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ก็จะสามารถใช้สิทธิซื้อสินค้ากับผู้ประกอบการร้านค้าที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการได้ทันที ซึ่งสามารถใช้จ่ายได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 หากไม่ใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับจากวันถัดจากวันที่ได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิ ท่านจะถูกตัดสิทธิและไม่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้อีก

นอกจากนี้ สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 เวลา 12.00 น. มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 5.9 แสนร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 7,410,937 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 11,889 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 6,059 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 5,830 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 210 บาทต่อครั้ง โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ตามลำดับ

 

ทั้งนี้ รองโฆษกกระทรวงการคลังได้ขอความร่วมมือประชาชนและร้านค้าให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอให้ร้านค้าอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า เนื่องจากจะเป็นการเอาเปรียบประชาชนและทำลายบรรยากาศของการจับจ่ายใช้สอยตามโครงการคนละครึ่ง อีกทั้งประชาชนโปรดอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนตามโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ ในการช่วยดำเนินการโดยไม่มีการใช้จ่ายจริงอย่างเด็ดขาดเพราะอาจตกเป็นเหยื่อในการสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิดและมีโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ ซึ่งกระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อดำเนินการตรวจสอบและพิจารณาการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดเงื่อนไขโครงการ โดยหากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดจริง จะมีการระงับการใช้แอปพลิเคชันและระงับการจ่ายเงินร้านค้าทันที

 

รองโฆษกกระทรวงการคลังยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำโครงการคนละครึ่งระยะที่ 2 เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน เพื่อรักษาระดับการบริโภคของประชาชนและกระจายรายได้ไปยังร้านค้ารายย่อยได้อย่างต่อเนื่อง