"ศรีสุวรรณ จรรยา"เค้นเอาผิดทางอาญาผู้บริหารธุรกิจก๊าซปตท.-กก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ

23 ต.ค. 2563 นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิด เหตุการณ์ท่อก๊าซระเบิดที่อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ บริเวณตรงข้ามวัดเปร็งราษฎร์บำรุง ถนนเทพราช-ลาดกระบัง ต.คลองสวน เป็นเหตุให้เกิดเปลวไฟขนาดใหญ่ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง มีบ้านเรือนกว่า 34 หลัง รถยนต์ 62 คัน รถจักรยานยนต์ 59 คัน ร้านค้า 7 ร้าน รวมทั้งสถานีตำรวจภูธรเปร็งที่อยู่ใกล้ๆ ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด มีรายงานผู้บาดเจ็บกว่า 52 ราย และผู้เสียชีวิต 3 รายนั้น

หลังเกิดเหตุดังกล่าว พนักงานเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยของบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) หรือ PTT ได้เข้าไปเผชิญเหตุเพื่อตัดแยกระบบการเดินท่อเพื่อควบคุมก๊าซ และสอบสวนหาเหตุของการระเบิด พร้อมเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยทาง ปตท.ยืนยันว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด บริษัทจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่ เพราะได้ทำประกันภัยไว้แล้ว

อย่างไรก็ตาม นายศรีสุวรรณระบุว่า ความรับผิดชอบต่อความเสียหายทางแพ่งนั้น เป็นหน้าที่ของบริษัทมหาชนของรัฐอย่างปตท.ที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบไปไม่ได้ ทว่าในส่วนของความรับผิดชอบทางอาญานั้น ดูเหมือนหน่วยงานต่าง ๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางฝ่ายปกครองของจังหวัดสมุทรปราการ กรมธุรกิจพลังงาน ยันกรมควบคุมมลพิษ ยังไม่ได้มีการกล่าวถึง และยังไม่ได้มีความพยายามที่จะดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายแต่อย่างใด

โดยเฉพาะการปล่อยให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของปตท.เข้าไปสอบสวนหาเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน หน่วยกู้ภัยต่าง ๆ ตลอดจนกองทัพสื่อมวลชน ซึ่งกว่าจะกันพื้นที่ให้เป็นเขตหวงห้าม ก็ทำให้หลักฐานบางอย่างหมดไปได้ “เพราะอย่าลืมว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตด้วย ซึ่งเป็นเหตุทางอาญา ตาม ปอ.291 ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องเก็บรวมรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุมาประกอบสำนวนในการเอาผิดผู้บริหารหน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ด้วย” นายศรีสุวรรณกล่าว  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯสั่งเยียวยาเหตุ "ท่อแก๊สระเบิด" และเร่งตรวจสอบสาเหตุ

เกาะติดเหตุ "ท่อส่งแก๊สระเบิด" อ.บางบ่อ สมุทรปราการ

เปิดคลิปวินาที "ท่อแก๊สระเบิด"

ประมวลภาพ “ท่อส่งแก๊สระเบิด” อ.บางบ่อ สมุทรปราการ 

อัปเดต "ท่อแก๊สระเบิด" ปตท.ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ถูกกระทบ

กรณีที่เกิดขึ้น เป็นผลพิสูจน์โดยประจักษ์ที่ภาคประชาชนและเอ็นจีโอ เคยชุมนุมประท้วงการวางท่อก๊าซของปตท.ในหลาย ๆ เส้นทางที่รอนสิทธิ์ของประชาชนมาโดยตลอด ว่าอาจสร้างความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่อยู่ตามแนวท่อก๊าซได้ แต่ ปตท.ก็ปฏิเสธมาโดยตลอดเช่นกัน ว่าตั้งแต่เริ่มมีการวางท่อก๊าซมาตั้งแต่ปี 2524 จนถึงปัจจุบันเกือบ 40 ปีมานี้ ไม่เคยเกิดเหตุถึงขั้นทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ

อย่างไรก็ตาม นายศรีสุวรรณกล่าวว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ถือเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นเด่นชัดว่าข้อกังวลที่ชาวบ้านและเอ็นจีโอท้วงติงจนนำไปสู่การฟ้องร้องเป็นคดีต่อศาลมากมายมาโดยตลอดนั้นเกิดขึ้นจริงได้ และที่สำคัญหน่วยงานและคณะกรรมการ คชก. และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่เห็นชอบ EIA โครงการท่อก๊าซที่ส่วนใหญ่อยู่ใต้โครงข่ายสายไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) นั้นถือเป็นความเสี่ยงที่อันตรายยิ่งทั่วประเทศ

“แต่ผู้ที่เห็นชอบ EIA จะสำนึกผิดและจะถ่ายบาปกับสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้อย่างไร และหน่วยงานรัฐจะใช้ ม.96-97 แห่ง พรบ.สิ่งแวดล้อม 2535 ฟ้อง ปตท.เป็นคดีสิ่งแวดล้อมหรือไม่ อย่างไรต้องติดตามกันต่อไป” นายศรีสุวรรณ กล่าวทิ้งท้าย