"หยุดยาว"ท่องเที่ยวกร่อยเกือบ 50% ไม่มีแผนเดินทาง

11 ต.ค. 2563 | 05:11 น.

พาณิชย์เผยผลสำรวจช่วงวันหยุดยาว ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด จากต้องการประหยัดเงิน ขณะผู้ที่ยังเดินทางค่าใช้จ่ายต่อทริปต่ำกว่า 5,000 มากสุด กังวลโควิดระบาดรอบ2

 

นางสาวพิมพ์ชนก  วอนขอพร  ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)  กระทรวงพาณิชย์เผยว่า ในเดือนกันยายน 2563 สนค. ได้สำรวจพฤติกรรมการเดินทางในช่วงวันหยุดยาว โดยสำรวจผู้บริโภคทั้งประเทศ ครอบคลุมทุกจังหวัดและอำเภอ (884 อำเภอ/เขต) รวมทั้งสิ้น 8,124 คน พบว่า การเดินทางในช่วงวันหยุดยาว (เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2563) ประชาชนเดินทางร้อยละ 27.4 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยว ร้อยละ 56.0 และกลับภูมิลำเนาร้อยละ 44.0 โดยมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยว ไม่เกิน 10,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 86.1 (ต่ำกว่า 5,000 บาท มากที่สุด ร้อยละ 48.4 รองลงมาเป็น 5,000-10,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 37.7) และใช้จ่ายเกิน 10,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 13.9

 

สำหรับสาเหตุที่ประชาชนไม่เดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดยาว เนื่องจากต้องการประหยัดเงิน และไม่อยากไปไหน (ชอบพักผ่อนอยู่บ้าน) มีสัดส่วนรวมกัน คิดเป็นร้อยละ 85.2 (ร้อยละ 55.7 และ 29.5 ตามลำดับ) ในขณะที่ไม่ทราบว่าจะไปที่ไหน/ไม่มีข้อมูล คิดเป็นร้อยละ 14.8

 

สำหรับในวันหยุดยาวเดือนตุลาคม 2563 ที่จะถึงนี้ พบว่า ประชนที่ไม่มีแผนการเดินทางไปต่างจังหวัด คิดเป็นร้อยละ 47.7 รองลงมา คือ ไม่แน่ใจ ร้อยละ 40.6 และสุดท้ายคือ มีแผนเดินทางไปต่างจังหวัดเพียงร้อยละ 11.7

 

นอกจากนี้ สนค.ยังสำรวจความกังวลของผู้บริโภคในปัจจุบัน พบว่า ประชาชนมีความกังวลในเรื่องของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  รอบ 2 เป็นอันดับแรก คิดเป็นร้อยละ 40.1 รองลงมา คือ ราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคเพิ่มสูงขึ้น คิดเป็นร้อยละ 17.2 และลำดับที่ 3 เป็นภาระหนี้สิน คิดเป็นร้อยละ 14.4

 

"หยุดยาว"ท่องเที่ยวกร่อยเกือบ 50% ไม่มีแผนเดินทาง

นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวสรุปว่า จากผลการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในการเดินทางช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนยังคงมีความระมัดระวังในด้านการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รวมถึงความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เริ่มมีการระบาดระลอกสอง ส่งผลให้ตลาดการท่องเที่ยวไทยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้อาจจะยังไม่ฟื้นตัวมากนัก

 

ประกอบกับปัจจุบันคนไทยเริ่มปรับตัวสู่ยุค New Normal ทั้งในเรื่องวิถีการใช้ชีวิตประจำวัน และรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนเดิม ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้และต้นทุนของผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยว ดังนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจำเป็นต้องปรับรูปแบบการทำตลาดให้เหมาะสมกับการท่องเที่ยวในยุค New Normal ขณะเดียวกันต้องสร้างความมั่นใจต่อประชาชนในมาตรฐานการดูแลรักษาความปลอดภัยและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  โดยใช้จังหวะที่ภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการส่งเสริมให้คนไทยท่องเที่ยวในประเทศ ให้เป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งธุรกิจโรงแรม ขนส่ง ร้านขายของที่ระลึก และร้านขายอาหาร เป็นต้น

 

"หยุดยาว"ท่องเที่ยวกร่อยเกือบ 50% ไม่มีแผนเดินทาง

 

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการต้องไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคากับผู้บริโภคอย่างไม่เป็นธรรมด้วย ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนกับความเป็นอยู่ของประชาชนทุกกลุ่ม ซึ่งหากพบเห็นปัญหาไม่เป็นธรรมด้านราคาสินค้าและบริการ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ห่วงท่องเที่ยวไทย แนะรัฐฟังเสียงเอกชนก่อนออกนโยบาย

เปิดรับนักท่องเที่ยวกลุ่ม STV สัญญาณที่ดีช่วยกระตุ้นท่องเที่ยวไทย  

นักท่องเที่ยวไทยยังคงอยาก "เที่ยวในประเทศ" ปีหน้าอยู่