6 ตุลาคม 2563 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกล่าสุด 6 ตุลาคม 2563 ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า องค์การอนามัยโลกคาดประมาณว่าทั่วโลกอาจมีคนติดเชื้อไปแล้วถึง 1 ใน 10 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งมากกว่ารายงานปัจจุบันราว 20 เท่า
ยอดรวมของญี่ปุ่นแซงจีนไปแล้ว
เมื่อวานติดเพิ่มอีก 309,376 คน รวมแล้วตอนนี้ 35,649,508 คน ยอดตายรวม 1,045,038 คน
อเมริกา ติดเพิ่ม 39,483 คน รวม 7,670,944 คน น่าติดตามดูว่าจำนวนคนที่ติดเชื้อในทำเนียบขาวนั้นจะมีรวมทั้งสิ้นมากน้อยเพียงใด ตอนนี้มีทั้งบุคลากรต่างๆ ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ ไปจนถึงผู้สื่อข่าว กรณีนี้น่าจะเป็นบทเรียนให้ทุกประเทศเน้นมาตรการป้องกันให้เคร่งครัด
อินเดีย ติดเพิ่ม 59,938 คน รวม 6,682,073 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยอดโควิด 6 ต.ค.63 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 ราย มาจากต่างประเทศ
อ่วม! ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 35.6 ล้านราย เพิ่มขึ้น 2.4 แสนราย
นายกฯมาเลย์ประกาศกักตัวเอง หลังพบรัฐมนตรีติดโควิด
ปิดเพิ่ม 14 วัน“ด่านพระเจดีย์สามองค์” สกัดโควิด-19 เมียนมา
บราซิล ติดเพิ่ม 11,946 คน รวม 4,927,235 คน
รัสเซีย ติดเพิ่ม 10,888 คน รวม 1,225,889 คน เป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่องกันถึง 23 วันแล้ว
อันดับ 5-10 ตอนนี้เป็น โคลอมเบีย เปรู สเปน อาร์เจนตินา เม็กซิโก และแอฟริกาใต้ ส่วนใหญ่ติดกันหลักพันถึงหลายพันต่อวัน
ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร อิตาลี เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ติดกันเพิ่มหลักพันถึงหมื่นกว่า
หลายต่อหลายประเทศในยุโรปก็ยังติดกันหลักร้อยถึงหลักพัน
ญี่ปุ่น มาเลเซีย และเมียนมาร์ติดเพิ่มกันหลายร้อยถึงเฉียดพัน ส่วนจีน เกาหลีใต้ ฮ่องกง และออสเตรเลียติดเพิ่มกันหลักสิบ ในขณะที่สิงคโปร์ เวียดนาม และนิวซีแลนด์ยังมีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
...สถานการณ์ในเมียนมาร์รุนแรงขึ้น ติดเพิ่มไปอีกถึง 987 คน ตายเพิ่มอีก 32 คน ตอนนี้ยอดรวมถึง 18,781 คน ตายไปมากถึง 444 คน อัตราตายตอนนี้สูงขึ้นเป็น 2.4%
...ทางใต้ของไทยอาจต้องช่วยกันป้องกันให้ดี มาเลเซียมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้สูงถึง 432 คนแล้ว หากวิเคราะห์จะพบว่าจำนวนการติดเชื้อเฉลี่ยต่อสัปดาห์ของเค้าขณะนี้สูงกว่าสัปดาห์ก่อนหน้านั้นถึง 2.5 เท่า ดูกราฟการระบาดแล้วน่าจะเป็นขาขึ้นของจริง ในขณะที่จำนวนการติดเชื้อรายวันที่เคยสูงสุดคือ 296 ในระลอกแรก คราวนี้สูงกว่าเดิมราว 1.45 เท่า สอดคล้องกับที่เคยวิเคราะห์ไว้ว่าระลอกสองมักสูงกว่าเดิม 1.3-2.6 เท่า
...ทั่วโลกตอนนี้ยังรุนแรงกันแทบทุกทวีป แต่ความก้าวหน้าด้านวัคซีนและยาก็มีออกมาเรื่อยๆ
ปัญหาของไทยตอนนี้คือ เปิดประเทศตามนโยบายหวังโกยเงินจากการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ
ต่อให้ออกแบบระบบอย่างไร โอกาสระบาดซ้ำก็มีสูง และหากระบาดซ้ำก่อนที่จะมียาหรือวัคซีน ก็อาจสะบักสะบอมจากผลกระทบอย่างรุนแรงได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็น่าเสียดายแทน เพราะเกมส์พลิกจากกิเลสโดยพลาดเรื่องเงื่อนเวลาที่เหมาะสมเท่านั้นเอง
ส่วนตัวแล้วผมบอกตรงๆ ว่า นี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสำหรับการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวของต่างชาติครับ
...เป็นตาเดินบนกระดานที่เดินแล้ว ขุนอาจโดนกิน...
ขอให้พวกเรารักตัวเอง รักครอบครัว ป้องกันตัวเสมอนะครับ
หัวใจสำคัญคือ "ใส่หน้ากากเสมอ" และ "คอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบายให้หยุดเรียนหยุดงานและรีบไปตรวจรักษา"