นายอธิป พีชานนท์ ประธานคณะกรรมการสมาคมการ ค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้าง เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ" ถึงรายนามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ ซึ่งล่าสุด เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศตั้งแต่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ขึ้นดำรงตำแหน่งดังกล่าว แทน นายปรีดี ดาวฉาย ที่ลาออกจากจากปัญหาสุขภาพไปก่อนหน้านี้ ว่า ในแง่คุณสมบัตินั้น ถือ เป็นบุคคลที่มีความพร้อมค่อนข้างมาก แม้ตำแหน่งล่าสุด คือ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคมนาคม
แต่ที่ผ่านมา ท่านเคยทำงานด้านเศรษฐกิจ ผ่านการดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มาก่อน ทั้งยังเป็นบุคลคลสำคัญที่อยู่ในกลไกลระบบเศรษฐกิจมหภาคของประเทศมาแล้วเกือบทุกรัฐบาล โดยเชื่อว่าประสบการณ์ดังกล่าวน่าจะมีส่วนส่งเสริมในการบริหารงาน ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 ได้อย่างดี
อย่างไรก็ตาม ส่วนที่เป็นน่ายินดียิ่ง สำหรับภาคเอกชนนั้น คือ การที่นายอาคม มีบุคคลิกที่เรียบง่าย เข้าถึงได้ ซึ่งตลอดการทำงานที่ผ่านมา ต่างเป็นที่ยอมรับจากภาคเอกชนทุกฝ่าย ซึ่งมองว่า จะทำให้การทำงานร่วมกันของภาคเอกชนและรัฐบาลไปได้โดยดี โดยเฉพาะ การเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้เอกชนได้มีส่วนร่วมตัดสินใจ แก้ปัญหาในภาคธุรกิจนั้นๆ
" มองว่า ท่านอาคม มีบุคคลิกการทำงานดีกว่าที่ผ่านๆมา โดยเฉพาะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา มีการเปิดพื้นที่ให้เอกชน เข้าไปทำงานร่วมในการแก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งหลังจากนี้คงขึ้นอยู่กับ การทำให้ระบบราชการ และภาคเอกชน เดินไปด้วยกันได้อย่างไร ในตำแหน่งที่ท่านได้รับ "
นายอธิป ยังระบุว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทย ถือเป็นโจทย์หิน และท้าทายสำหรับรัฐมนตรีคนใหม่อย่างมาก เพราะภาพรวมไม่ได้ขึ้นอยู่กับภาวะในประเทศเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับประเทศขนาดใหญ่ทั่วโลก ซึ่งเป็นคู่ค้าด้านการส่งออก และส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งหากประเทศต่างๆ ยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโลกได้ เศรษฐกิจไทยก็ยังน่ากังวลต่อเนื่อง ฉะนั้น รัฐมนตรีใหม่ นอกจากมีคุณสมบัติที่ดีแล้ว ความมุ่งมั่นก็เป็นเรื่องสำคัญ
ขณะภาคอสังหาริมทรัพย์นั้น ที่ผูกพันธ์ต่อกำลังซื้อของคนในประเทศ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) อยากฝากการบ้านให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ ใน 3 เรื่องสำคัญ ดังนี้
1.เร่งฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งเสียหายจากผลกระทบไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะการสร้างให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อโดยตรงต่อกำลังซื้อของตลาดอสังหาฯ ควบคู่กับการแก้ปัญหาในภาคการท่องเที่ยว และส่งออก
2.เร่งขับเคลื่อน การลงทุนใหม่ๆของภาครัฐ ผ่านการเดินหน้าเบิกจ่าย การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ที่รอการพิจารณา เพื่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ
นายอธิป ยังระบุว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทย ถือเป็นโจทย์หิน และท้าทายสำหรับรัฐมนตรีคนใหม่อย่างมาก เพราะภาพรวมไม่ได้ขึ้นอยู่กับภาวะในประเทศเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับประเทศขนาดใหญ่ทั่วโลก ซึ่งเป็นคู่ค้าด้านการส่งออก และส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งหากประเทศต่างๆ ยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโลกได้ เศรษฐกิจไทยก็ยังน่ากังวลต่อเนื่อง ฉะนั้น รัฐมนตรีใหม่ นอกจากมีคุณสมบัติที่ดีแล้ว ความมุ่งมั่นก็เป็นเรื่องสำคัญ
ขณะภาคอสังหาริมทรัพย์นั้น ที่ผูกพันธ์ต่อกำลังซื้อของคนในประเทศ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) อยากฝากการบ้านให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ ใน 3 เรื่องสำคัญ ดังนี้
1.เร่งฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งเสียหายจากผลกระทบไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะการสร้างให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อโดยตรงต่อกำลังซื้อของตลาดอสังหาฯ ควบคู่กับการแก้ปัญหาในภาคการท่องเที่ยว และส่งออก
2.เร่งขับเคลื่อน การลงทุนใหม่ๆของภาครัฐ ผ่านการเดินหน้าเบิกจ่าย การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ที่รอการพิจารณา เพื่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ
3.การแก้ปัญหารายอุตสาหกรรม โดยเปิดโอกาสให้ตัวแทนภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมให้มากขึ้น เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็วและตรงจุด
ทั้งนี้ การที่นายอาคม เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมาก่อนนั้น ถือเป็นอีกข้อดีต่อภาคอสังหาฯ ในอนาคต เนื่องจาก คงทำให้การเบิก-จ่าย ในแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่างๆ เป็นไปด้วยความรวดเร็วได้ เพราะมีความเข้าใจเป็นทุนเดิม ไม่ต้องเสียเวลาศึกษา และสั่งการใหม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อาจมีความเป็นไปได้ ที่ท่านจะระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งต้องจับตาดูกันต่อไป