พักหนี้ยาว 1ปี “ท่องเที่ยว-SMEs”เฮ

04 ต.ค. 2563 | 04:54 น.

ธปท.เล็งต่อมาตรการพักหนี้ 1 ปี รายเซ็กเตอร์ “ท่องเที่ยว-โรงแรม” มีหวัง เหตุยังประเมินกระแสเงินสดยาก สมาคมโรงแรมไทยหนุน ช่วยเหลือธุรกิจที่จดทะเบียนตามกฏหมาย

หนึ่งในความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพหนี้ของสถาบันการเงินคือ ลูกหนี้ที่อยู่ในโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ด้วยการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย จำนวน 12.5 ล้านบัญชี คิดเป็นมูลหนี้ 7.2 ล้านล้านบาทจะครบกำหนดในเดือนตุลาคม 2563

 

ทำให้เกิดความกังวลว่า ลูกหนี้เหล่านี้จะไม่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้สถานการณ์จะคลี่คลายลง แต่ในแง่การทำธุรกิจ ก็ยังไม่สามารถเดินหน้าได้ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

 

จ่อพักหนี้1ปี

ล่าสุดมีรายงานจากสถาบันการเงินว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังพิจารณาที่จะ ขยายการพักชำระหนี้ เป็นรายกลุ่มธุรกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อย่างโรงแรมออกไปอีก ซึ่งสอดคล้องกับที่ นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ออกมาระบุว่า กำลังคิดจะต่อเวลาการพักชำระหนี้ออกไปอีก 6 เดือน ทบทวน 2 ครั้งไปจนถึงสิ้นปี 2564

พักหนี้ยาว 1ปี “ท่องเที่ยว-SMEs”เฮ

ทั้งนี้ธปท.ได้ติดตามกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้รอบแรก ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องยังไม่แล้วเสร็จ ถ้ายังมีความไม่แน่นอนสูง เช่น บางธุรกิจไม่รู้กระแสเงินสด (Cash flow) ในปี2564 ก็จะยืดการชำระหนี้ออกไป แต่หากมีความพร้อมที่จะลงทุนใหม่ ก็สามารถมาขอสินเชื่อเพิ่มเติมได้ เพราะในโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยตํ่า(ซอฟต์โลน) มีหลายรายที่ธปท.ติดตามดูพบว่า มีหลักประกันคุ้ม แต่ไม่ได้ขอรับสิทธิใช้ซอฟต์โลน

ธปท.ได้ส่งรายชื่อผู้ประกอบการรายดังกล่าวให้กับธนาคาร ซึ่งได้รับคำตอบหลากหลาย บางส่วนผู้ประกอบการแจ้งว่า ไม่มีเหตุผลที่จะก่อหนี้เพิ่ม เพราะแผนธุรกิจยังไม่มีความชัดเจน แต่หากกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาผู้ประกอบการต้องลงทุนปรับให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้น เช่น โรงแรม เมื่อเปิดประเทศก็จะต้องมีการลงทุนปรับปรุง

 

เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผมได้คุยกับผู้บริหาร โดยให้ความสำคัญกับแบงก์ในการติดต่อลูกค้า ประเมินลูกค้า และจัดความเสี่ยง สำหรับลูกค้าที่ไม่ไหว แล้วก็ต้องปรับโครงสร้างหนี้อย่างชัดเจน จึงใช้มาตรการเป็นการทั่วไปไม่ได้ เพราะผลกระทบไม่เหมือนกัน

 

  พักหนี้ยาว 1ปี “ท่องเที่ยว-SMEs”เฮ                                                           

จี้ประคองท่องเที่ยว

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) กล่าวว่า หากธปท. มีแนวทางที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการในเซ็กเตอร์ท่องเที่ยวและโรงแรมตามความจำเป็น ด้วยการพักชำระหนี้เงินต้น พักชำระดอกเบี้ย จะเป็นสิ่งที่ดีมาก ซึ่งทางสมาคมโรงแรมได้เสนอความช่วยเหลือในเรื่องนี้ให้ทางธปท.พิจารณาไปแล้วเช่นกันเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

 

พักหนี้ยาว 1ปี “ท่องเที่ยว-SMEs”เฮ

 

เนื่องจากธุรกิจในเซ็กเตอร์ท่องเที่ยวรวมถึงโรงแรม จริงๆเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ แต่ตอนนี้ธุรกิจต้องชะงักงันจากปัจจัยภายนอก ซึ่งเป็นผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในการทำธุรกิจ แม้แต่จะคาดการณ์ธุรกิจ หรือ  Business plan ในอีก 3-6 เดือน ยังไม่สามารถทำได้ว่า จะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยเท่าไหร่ จะมีรายได้เข้ามาเพียงพอจะชำระหนี้หรือไม่

 

แต่หากโรงแรมได้รับการช่วยเหลือเรื่องการพักชำระหนี้ออกไปอีกถึงปลายปี 2564 ก็จะช่วยทำให้ลดต้นทุนทางการเงินลง ให้พอประคองตัวต่อไปได้ ระหว่างที่รัฐบาลทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบจำกัด(สเปเชียล ทัวริสต์ วีซ่า) และหากเป็นไปได้ดีอาจจะมีการเปิดเพิ่มมากขึ้น และลดจำนวนวันกักตัวให้น้อยลงกว่า 14 วัน ก็จะทำให้ธุรกิจพอมีรายได้

 

รวมถึงยังช่วยชะลอการเลิกจ้างงานให้ลดลง เพราะเงินช่วยเหลือจากประกันสังคมเป็นเวลา 3 เดือนหมดไปแล้ว ขณะที่รายได้จากธุรกิจหลายแห่งก็ยังไม่มีเข้ามา เพราะยังไม่สามารถกับมาเปิดให้บริการได้

 

สินเชื่อท่องเที่ยว7แสนล้าน

“ปัจจุบันภาคท่องเที่ยว มีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินต่างๆ รวมกว่า 7 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นส่วนของโรงแรมราว 3-4 แสนล้านบาท หากรัฐจะมีนโยบายพักชำระหนี้ให้เซ็กเตอร์ท่องเที่ยว ต้องขึ้นกับดุลยพินิจของสถาบันการเงินที่จะไปเจรจากับลูกหนี้แต่ละรายด้วย อาจไม่ได้พักหนี้ทั้ง 7 แสนล้านบาท"

 

เพราะธนาคารก็ต้องอยู่ได้ด้วย เพียงแต่สมาคมโรงแรมไทย มองว่าอย่างน้อยก็ควรพิจารณาช่วยเหลือธุรกิจที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย และเป็นธุรกิจที่มีการจ่ายภาษีถูกต้อง

 

นอกจากนั้น สมาคมโรงแรมไทยยังเสนอเพิ่มเติม เรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและเงินกู้ซอฟต์โลน เพื่อช่วยเหลือโรงแรมขนาดกลางและเล็ก ซึ่งอาจต้องไปขอซอฟต์โลนจากธนาคาร ออมสิน โดยต้องทำความเข้าใจกันว่า สถานการณ์เช่นนี้ไม่ใช่สภาวะปกติ การช่วยเหลือจะทำแบบเดิมก็คงไม่ใช่ รวมถึงการขอวงเงินสนับสนุน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ 

 

โดยให้อนุมัติสินเชื่อได้ถึง 20% จากวงเงินกู้เดิมกับสถาบันการเงินในอัตราดอกเบี้ย 2% ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 2-3 ปี จากนั้นให้แปลงเป็นสินเชื่อระยะยาวดอกเบี้ยตํ่าผ่อนชำระกับธนาคารพาณิชย์ หากลูกค้ามีหลักประกันไม่พอ ขอให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นผู้คํ้าประกัน 100%

 

ทวงซอฟต์โลน

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชียกล่าวว่า เดือนตุลาคมนี้ทั้ง 7 สายการบิน จะเข้าทวงถามต่อรัฐบาลอีกครั้งเรื่องซอฟต์โลนช่วยเหลือธุรกิจการบิน ซึ่งเราคาดหวังซอฟต์โลนก้อนแรกภายในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้มีสภาพคล่องเพียงพอที่จะขยายฝูงบินกลับมาเปิดให้บริการประชาชนคนไทยได้ในไฮน์ซีซันนี้

พักหนี้ยาว 1ปี “ท่องเที่ยว-SMEs”เฮ

 อย่างไรก็ตามรายงานข่าวจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (ธสน.) ซึ่่งได้รับมอบหมายจากรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยตํ่าให้สายการบินว่า อยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงคมนาคม เพื่อหาทางออกที่เหมาะสม เพราะหากต้องช่วยเหลือสายการบินต้องตอบคำถามกับประชาชนให้ได้ เนื่องจากจะมีกลุ่มที่ได้รับประโยชน์อยู่เพียงไม่กี่รายเท่านั้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็กที่นี่ ธอส.ขยายเวลาพักชำระหนี้ ถึงสิ้นเดือนม.ค.64

"ออมสิน" ขยายเวลาพักชำระหนี้อัตโนมัติต่ออีก 3 เดือน

โควิด-19ดันเอ็นพีแอลพุ่ง9%

โบรกหวั่นครึ่งปีหลังเอ็นพีแอลแบงก์พุ่ง

 

หน้า 1  หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,614   วันที่ 1-3  ตุลาคม  พ.ศ. 2563