“มนัญญา” ลั่น ยังนั่ง รมช.เกษตร จะไม่มีการใช้ 2 สารพิษ

29 ก.ย. 2563 | 04:31 น.

"มนัญญา"การันตี ยังนั่ง รมช.เกษตร จะไม่มีการใช้ 2 สารพิษ "คลอร์ไพริฟอส-พาราควอต"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 กันยายน 2563) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการวัตถุอันตราย มีมติยังห้ามใช้สารคลอร์ไพริฟอส และพาราควอตว่า มีการระบุว่า คณะกรรมการวัตถุอันตรายจะไม่นำเรื่องดังกล่าวมาพิจารณา เมื่อมันไม่มีต้นก็จะไม่มีปลายต่อไป เมื่อถามว่า ขณะนี้วางใจได้หรือยังว่า คณะกรรมการวัตถุอันตรายจะไม่ทบทวนมติห้ามใช้สารพิษอันตราย นางสาวมนัญญา กล่าวว่า “วางใจได้ เมื่อตนยังเป็นรัฐมนตรีอยู่"

 

ส่วนกรณีที่ว่า เรื่องนี้สามารถนำมติเข้าพิจารณาทบทวนได้ตลอดเวลาหรือไม่นั้น น.ส.มนัญญา กล่าวว่า ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะที่ผ่านมาก็เห็นกลับไปกลับมาซึ่งตนก็ไม่ทราบระบบกลับไปกลับมาว่า เมื่อก่อนเป็นอย่างไร

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ใครครอบครอง 2 สารพิษ มีโทษจำคุก 10 ปี ปรับ 1 ล้านบาท

2 องค์กรพร้อมสู้ยักษ์ข้ามชาติฟ้องศาลยึดมติแบน 2 สารพิษ

28 ก.ย.พลิกมติ/คงแบน 2 สารพิษ "พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส"

เครือข่ายแบนสารพิษฯค้านยืดเวลาแบน 2 สารพิษถึงสิ้นปี 

 

เมื่อถามต่ออีกว่า ขณะนี้ยังมีคลื่นใต้น้ำที่อยากให้นำพาราควอต กลับมาใช้อยู่ใช่หรือไม่ น.ส.มนัญญา กล่าวว่า คิดว่าคณะกรรมการชุดนี้ คงจะไม่นำเรื่องดังกล่าวกลับมาทบทวนอีกแล้ว ไม่ว่าคลื่นใต้น้ำจะมีอย่างไรก็แล้วแต่ มันอยู่ที่เราจะเกิดความมั่นคง และจริงใจกับผู้บริโภค เกษตรกร มากน้อยขนาดไหน ตรงนี้สำคัญกว่า

ถามว่า ประชาชนมั่นใจได้แล้วหรือไม่นั้น  น.ส.มนัญญา กล่าวว่า ก็น่าจะไว้วางใจได้แล้ว ส่วนที่มีเกษตรกรบางส่วนกังวลว่า ขณะนี้ยังไม่มีสารเคมีมาใช้ทดแทน รวมทั้งบางพื้นที่ยังมีการลักลอบขายอยู่นั้น เรื่องนี้ตนก็ไม่ทราบว่า คนที่ออกมาเรียกร้องเป็นกลุ่มอาชีพอะไร กำลังตรวจสอบอยู่ แต่กลุ่มที่เป็นเกษตรกรจริงๆได้ลงไปดูแทบทุกแปลงแล้ว นำเครื่องจักรไปช่วยเหลือ และสารทดแทนยังมีอยู่ แต่หากยังเป็นพิษเราก็จะห้ามเหมือนเดิม ซึ่งมั่นใจว่าสารที่จะมาทดแทนมีพิษน้อยกว่าสารเคมีเดิม

 

ทั้งนี้ ยอมรับว่า เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงคนก็ยังยอมรับไม่ได้ แต่เชื่อว่าถ้ามีการแบนอย่างจริงจังก็จะเกิดระบบการปรับเปลี่ยนอย่างยั่งยืน

นางสาวมนัญญา กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ต้องไปดูการนำเข้าผลิตภัณฑ์นม และนมผงที่นำเข้าจากต่างประเทศ เราต้องร้วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อดูว่ายังมีสารพาราควอต ปนเปื้อนอยู่หรือไม่ เนื่องจากในประเทศของเราตอนนี้ระบบนมสดเป็นออแกนิคและการบริโภคนมของเด็ก เยาวชนเป็นเรื่องสำคัญ หากมีสารปนเปื้อนที่เป็นข้อห้ามในประเทศไทย แต่ยังมีการนำเข้าจากต่างประเทศทั้งที่ยังเป็นพิษภัย ให้เด็กทารกและเด็กที่กำลังเจริญเติบโตอยู่บริโภค ซึ่งเราจะเข้มงวดเรื่องนี้ต่อไป รวมทั้งจำกัดการใช้ไกลโฟเซตอีกด้วย