บาทแข็งทุบยางร่วง หลังทำนิวไฮ 61.95 บาท/กก.

05 ก.ย. 2563 | 10:15 น.

เปิดข้อมูล กยท. บาทแข็งปะทะเย็นแข็งค่ากดราคายางร่วง เหลือ 60.07 บาท/กก. “เพิก” ยุ “กยท” ปาดหน้าซื้อยางแข่งพ่อค้าหวังดันราคาพุ่งต่อเนื่อง “กลุ่มวิสาหกิจ” กังขาปริมาณยางในตลาด แนะ กยท. ตั้งกรรมการสอบ

การยางแห่งประเทศไทย รายงานสถานการณ์ราคายาง ณ วันที่ 3 ก.ย. 2563 ราคาประมูลเฉลี่ย ณ ตลาดกลาง ยางพารายางแผ่นดิบอยู่ที่ 56.8 บาท/กก. ปรับราคาลงมา 0.72 บาท/กก. จากราคายางแผ่นดิบ อยู่ที่ 57.52 บาท/กก. ส่วนยางแผ่นรมควัน ปรับเป็นนิวไฮ อยู่ที่ 61.95 บาท/กก. ราคาก็ปรับลงมา เหลืออยู่ที่ 60.07 บาท/กก. สาเหตุมาจากปัจจัยกดดันจาก ค่าเงินบาทและเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐรวมถึง ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงเป็นปัจจัยที่กดดันราคายางในขณะนี้

 

บาทแข็งทุบยางร่วง หลังทำนิวไฮ 61.95 บาท/กก.

 

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับการ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังจากหลายประเทศเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมการผลิตที่ค่อนข้างแข็งแกร่งอีกทั้งมีการประกาศของกรม อุตุนิยมวิทยาเกี่ยวกับข่าวพายุและผู้ประกอบการภายในประเทศ มีความต้องการยางเพิ่มมากขึ้นนักลงทุนยังคงต้องติดตามข้อมูล เศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิดต่อไป

 

เพิก เลิศวังพง

 

นายเพิก เลิศวังพง อดีตประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย จำกัด (ชสยท.) เผยว่า ผมเห็นสัญญาณราคายางพาราจะปรับตัวขึ้นหลายครั้งในรอบ 5 ปี แต่ถูกทำลาย โดยกลไกของคนที่ไม่เข้าใจก็คือคนไทยด้วยกันเองที่นั่งบริหาร ขาดความรู้ ขาดความเข้าใจศาสตร์ยางพารา วันนี้เรื่องของยางพาราไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง เป็นเรื่องของคนทั้งโลก มีคนเกี่ยวข้องหลักเพียงไม่กี่คน แต่เกี่ยวข้องกับคนทั้งโลก กลุ่มใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งที่มีผลทำให้ราคายางขึ้นหรือลง  ก็คือคนไทย ผมพูดไปอาจจะไม่เชื่อว่าคนไทยมีความสำคัญมากในเรื่องการสร้างราคามูลค่าให้กับสินค้าตัวเอง เพียงแต่ว่าขาดมืออาชีพ ขาดคนมีความเข้าใจในเรื่องยางพาราจริงๆ มานั่ง

 

“ผู้มีอำนาจเห็นว่าใครก็ได้มานั่งบริหาร ซึ่งการบริหารจัดการสินค้าเกษตรต้องมีความรู้รอบด้านมากพอสมควร เพราะโลกธุรกิจนี้รุนแรงและไม่มีใครยอมใคร การที่เอาคนที่คิดไม่ทันคนอื่น หรือเก่งแค่ด้านใดด้านหนึ่งครบเครื่อง แล้วที่สำคัญจะอาศัยหน่วยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เพราะไม่ทันเกม หมายถึงผู้บริหารองค์กรจะต้องไว จะต้องได้กลิ่นเร็วกว่าคนอื่น แต่จะได้กลิ่นต่อเมื่อทุกอย่างสายเกินไปจะเป็นอย่างนี้ตลอด จะได้ยินต่อเมื่อคนอื่นได้ยินมาแล้ว”

 

นายเพิก กล่าวว่า  วันนี้ "ราคายางแผ่นรมควัน  60++ มาแบบชาวบ้านยังแตะต้องไม่ได้ หรือแตะได้ก็ส่วนน้อย แต่หลักวิชาการถือว่ามาถึงแล้ว  ซึ่งผมเห็นว่าราคานี้ยังสามารถไปได้ต่อ เพราะยางพาราเป็นสินค้าที่ไม่มีราคา ราคาขึ้นอยู่กับความพอใจ ณ เวลานั้น ดังนั้นสิ่งที่ผมจะเสนอให้ผู้ว่าการ กยท. ต้องเรียประชุมทีมงานของ ตั้งวอร์รูมยางติดตามสถานการณ์ยางพาราอย่างใกล้ชิดเก็บทุกข้อมูล พร้อมดูข่าว และแถลงข่าวแล้วว่า กยท. จะซื้อยางแผ่นรมควันทุกกิโลกรัม คาดว่าจะใช้เงินไม่มาก และมีวันหนึ่งไม่กี่กิโลกรัมที่นำมาขายในตลาด โดยราคาไม่ต้องไปแข่งกับใครทุกวันให้ กยท. เอาราคาจบวันนี้ตั้งซื้อราคายางแผ่นรมควันในวันพรุ่งนี้

 

“ถ้าใครอยากได้ราคายางก็ต้องซื้อมากกว่า ถือว่าเป็นกลไก แล้วแต่ละวันราคายางจบเท่าไรก็นำไปตั้งราคาในวันถัดไป ใครอยากได้ยางก็ต้องซื้อราคามากกว่า ถ้าไม่มีใครซื้อ กยท. ก็รับมา ไม่กี่กิโลกรัม แล้วใช้เงินน้อยกว่าโครงการต่างๆ ที่ทำมา พร้อมทำเรื่องเสนอบอร์ด เรียกทีมงาน ผอ.ทุกจังหวัดที่มีโกดัง ให้เตรียมการล้างโกดัง เพื่อเตรียมโกดังเก็บยาง เพราะอาจจะซื้อจริง เช็กรถโฟล์คลิฟท์ เช็กตราชั่ง ให้พร้อมที่จะรับยางเข้ามาเก็บ เพราะอาจจะต้องซื้อจริงบางส่วน แต่ถ้าพ่อค้าซื้อไปก็จะถูกดึงไปบางส่วนคุณก็จะรับผิดชอบแค่นิดเดียว แล้วราคายางในตลาดกลางทั้งหมดวันไหนไม่มียางพารา อย่าประกาศราคา ไม่มียางก็คือไม่มีราคา ไม่ต้องกำหนดราคาจากการคำนวณ ไม่ต้องเอามาประกาศ หรือราคา อุปโลกน์ ที่ไปคำนวณไปจากไหนไม่รู้มาตั้ง แล้วถ้าวันไหนมียาง มีราคา ก็ให้บอกจำนวนเป็นตัน

 

นายเพิก กล่าวว่า อย่าบอกเป็นกิโลกรัม เพราะบอกเป็นกิโลกรัม ดูโง่กว่าผู้ซื้อ เพราะแค่ตันกับกิโลกรัมเป็นจิตวิทยาตลาด และประกาศขายยางทุกวันๆละ  2-3 แสนกิโลกรัม ต้องบอกหน่วยเป็นตัน มียางเข้าตลาดเท่าไร 10 ตัน หรือ 20 ตัน ก็ว่าไป ถ้าเป็นกิโลกรัมทำให้ยางเข้าตลาดมีจำนวนมาก เหมือนสร้างตลาดเพราะต้องการให้ตลาดมีผลงาน มียางจำนวนมากเข้าตลาด แต่บางคนมองว่า 2 แสนกิโลกรัม ถึงกับต้องนั่งคิดเลยว่าปริมาณยางจำนวนเท่าใด แต่พอเป็นตันแล้วเหลือ 200 ตัน ซึ่งประเทศไทยมียางพาราแค่ 2 หมื่นตัน/วัน มากตรงไหน บางวันมีหลักหมื่นกิโลกรัม ก็แค่ 10 ตัน เรื่องจิตวิทยาผู้ว่าฯ ควรจะรีบแก้ไข ทำด่วน ในเรื่องดังกล่าวนี้เป็นอำนาจของผู้ว่าฯ ทำได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเกินวงเงินที่ผู้ว่าอนุมัติ ค่อยเตรียมการนำเข้าบอร์ด”

 

“เมื่อซื้อแล้วยางรมแผ่นควันไปไหน เชื่อว่าลูกค้าทั่วโลกจะวิ่งหาคุณ เพราะยางแผ่นเป็นที่ต้องการของคนทั้งโลก จะวิ่งไปหาซื้อยางแผ่นตลาดล่วงหน้าเพื่อผลิตเป็นยางล้อได้ไหม ไม่ได้ จะต้องเอายางจริงๆ ไปอยู่ดี แล้ววันนี้จะเป็นโอกาสดีที่คุณจะเซ็ทซีโร่ เมื่อเซ็ทเป็นศูนย์คุณจะประคองอย่างไรให้ดำเนินไปเพื่อให้ กยท.ควบคุมบริหาร ต้องทำ ทำไม่ได้เปลี่ยน แล้วหากทำอย่างนี้จะมียางแผ่นรมควันเพียงเจ้าเดียว ในขณะทั่วไปจะต้องซื้อราคาแย่งจากคุณ เพราะถ้าไม่ซื้อสูงจากคุณก็จะไม่มีวันได้ยาง”

 

ดังนั้นแนะนำให้ราคายางแผ่มรมควันวันนี้ไปตั้งซื้อราคาพรุ่งนี้เลย เพราะฉะนั้นถ้าตั้งราคานี้พ่อค้าจะต้องซื้อราคาสูงกว่า กยท.เท่านั้นถึงจะได้ยางแผ่นรมควันได้ไป แล้วยางวันนี้ไม่ได้มาก มีนิดเดียว แต่ความต้องการมีมาก ต้องรีบทำ เพราะเมื่อพ่อค้าจับมือกันจะเปลี่ยนท่าทีหากขึ้นราคาแล้วไม่ได้ของ จะขึ้นราคาทำไม เพราะจะกลับตาลปัตรก็จะเปลี่ยนเป็นลดราคาวันละ 1-2 บาท เพื่อเรียกยางออกมาจากคนใจไม่ถึง แค่นี้ยางก็จะกลับไปเป็นขาลงแล้ว ดังนั้นต้องรีบเอาราคายางราคาวันนี้ไปตั้งราคายางเลย อย่างน้อยราคายางแผ่นรมควันที่เข้าตลาดจะไม่มีวันต่ำกว่าราคายางแผ่มรมควันวันนี้

เรืองยศ เพ็งสกุล

 

นายเรืองยศ เพ็งสกุล ประธานกลุ่มวิสาหกิจคนกรีดยางรายย่อยถ้ำพรรณรา (วคยถ.) กล่าวว่า พิจารณาจากปริมาณยางเข้าตลาดสงขลาแล้วยังสงสัยเรื่องปริมาณอยู่ดี หากเป็นเหตุการณ์ปกติยางช่วงนี้ไม่น่าจะส่งกันขนาดนี้ การยางแห่งประเทศไทย ช่วยหาข้อมูลให้ที เบื้องหน้าเบื้องหลังเป็นอย่างไร เพราะหลังจากนี้ราคายางทั้งประเทศจะถูกประมูลทุบราคายางทุกชนิดลงไม่เป็นตามกลไกตลาดแน่ เพราะไพ่ที่อยู่ในมือผู้แปรรูปยางพาราต้นน้ำ ตัวดีสุดถูกใครก็ไม่ทราบบีบให้ทิ้งลงไปแล้วพร้อมกับแทงตามเต็มหน้าตักตอนนี้ ต้องหาคนมาช่วยล้มกระดานแล้ว สถาณการณ์ตอนนี้อย่าให้ต้องพึ่งฝนอย่างเดียว ปิดอีกหลายวันผู้แปรรูปต้นน้ำสายปานสั้นเพราะขาดทุนมาตลอด

 

บาทแข็งทุบยางร่วง หลังทำนิวไฮ 61.95 บาท/กก.

 

“การช่วยเหลือเร่งด่วน 3 ทางทางรอด 1.รับเบอร์แบงก์  ชะลออยางออกสู้ตลาดในช่วงหยุดยาวและราคาตกต่ำในช่วงที่ไม่เสถียรภาพ 2.เพิ่มตลาดทางเลือก ตลาดตามข้อตกลง,ตามสัญญา ตามคุณภาพยาง ฯลฯ 3.จัดการคน จัดการข้อมูล ในองค์กร ของ กยท. ให้ทำงานแล้วเกิดประโยชน์ในเชิงบวกและเกิดประโยชน์กับเกษตรกรชาวสวนยาง ในสถาณการณ์แบบนี้ทุกคนเดือดร้อนกันหมดครับ ช่วยกันคิดช่วยกันทำให้อาชีพทำสวนยางเดินหน้าไปได้ ก็เท่ากับทำบุญครั้งใหญ่แล้ว และชาวสวนยางจะได้มีความสุขกันเสียที”