ไทยแชมป์ส่งออกขนมขบเคี้ยวจากแป้งข้าวเบอร์ 1 ของโลก

12 มิ.ย. 2563 | 05:58 น.

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเผยไทยส่งออกขนมขบเคี้ยวจากแป้งข้าวเบอร์ 1 ของโลก โดยตัวเลข 4 เดือนแรกของปี 63 ส่งออกกว่า 1.3 หมื่นตัน มูลค่า 41 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 9 % ขณะที่ตลาดส่งออกหลักคืออาเซียน

 

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า ขนมขบเคี้ยวจากแป้งข้าว อาทิ ขนมปังกรอบ และบิสกิต ถือเป็นสินค้าเกษตรแปรรูปสำคัญของไทยที่น่าจับตามอง เนื่องจากนำข้าวมาพัฒนาต่อยอดและสอดแทรกนวัตกรรม จึงสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้ ทำให้ปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกขนมขบเคี้ยวจากแป้งข้าวเป็นอันดับ 1ของโลก ตามด้วยเยอรมนี และสวีเดน


ขณะที่ปี 2562 ไทยส่งออกขนมขบเคี้ยวจากแป้งข้าวกว่า 4.2 หมื่นตัน มูลค่า 129 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีแนวโน้มขยายการส่งออกเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคหันมาสนใจสินค้าที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติมากขึ้น 


สำหรับในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม-เมษายน) ไทยส่งออกสินค้าขนมขบเคี้ยวจากแป้งข้าวกว่า 1.3 หมื่นตัน มูลค่า 41 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 9  %  จากช่วงเดียวกันของปี 2562  ส่วนตลาดส่งออกสำคัญ คือประเทศที่ไทยได้ทำข้อตกลงการค้าเสรี โดยเฉพาะอาเซียนมีมูลค่าส่งออกถึง 13 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 8  % 


ตลาดฟิลิปปินส์ และสปป.ลาว เป็นตลาดส่งออกหลัก รองลงมาออสเตรเลีย มูลค่าส่งออก 4 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 24  %   ญี่ปุ่น มูลค่าส่งออก 3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 29 %   และนิวซีแลนด์ มูลค่าส่งออก 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 103  %  
 

 

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) แต่ละฉบับมีผลใช้บังคับ ทำให้การส่งออกขนมขบเคี้ยวจากแป้งข้าวไปยังประเทศคู่เอฟทีเอ ในปี 2562 เติบโตอย่างน่าพอใจ เช่น อาเซียน ขยายตัวถึง 2,727  %   จีน ขยายตัวร 1,633 %   ออสเตรเลีย ขยายตัว124  %  นิวซีแลนด์ ขยายตัว 332  %   และเกาหลีใต้ ขยายตัว 80  %  เป็นต้น


โดยเอฟทีเอส่งผลให้สินค้าขนมขบเคี้ยวจากแป้งข้าวของไทยมีแต้มต่อด้านราคา เพราะไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า ซึ่งประเทศคู่เอฟทีเอของไทย 17 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน 9 ประเทศ จีน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ฮ่องกง ชิลี และเปรู ไม่เก็บภาษีนำเข้าจากไทยแล้ว เหลือเพียงญี่ปุ่น ที่คงภาษีนำเข้า 0.6  %  และจะลดเหลือ 0 ในเดือนพฤษภาคม 2565

ไทยแชมป์ส่งออกขนมขบเคี้ยวจากแป้งข้าวเบอร์ 1 ของโลก  
 

ขนมขบเคี้ยวจากแป้งข้าวของไทยเป็นที่ยอมรับจากตลาดต่างประเทศ ทั้งในด้านคุณภาพและรสชาติ ผู้ประกอบการจึงควรให้ความสำคัญกับคุณภาพมาตรฐานด้านสุขอนามัยมากขึ้น รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายทั้งรสชาติและบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม แข็งแรง และพกพาสะดวก รวมทั้งติดตามแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค อาทิ คุณค่าทางโภชนาการ ลดปริมาณไขมัน โซเดียม และน้ำตาล และควรใช้เทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้สินค้าไทยโดดเด่นเป็นที่ยอมรับมากขึ้น และครองใจผู้บริโภคในระยะยาว” นางอรมน กล่าว