"บล.ทิสโก้"ชี้โอกาสทองหุ้นกลุ่มอาหาร แนะเก็บ CPF

07 มิ.ย. 2563 | 23:30 น.

บล.ทิสโก้  ชี้เวลาทองของกลุ่มธุรกิจอาหาร หลังราคาหมูโลกเพิ่มขึ้น  ราคาปลาทูน่ากลับสู่ปกติ ในขณะที่อาหารสัตว์มีราคาที่ลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้น แนะนำเก็บหุ้น CPF ราคาเป้าหมายที่ 40 บาท

 

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ทิสโก้ ชี้ปัจจัยบวกรอบด้านหนุนหุ้นกลุ่มธุรกิจอาหาร หลังราคาหมูโลกเพิ่มขึ้น  ราคาปลาทูน่ากลับสู่ปกติ ในขณะที่อาหารสัตว์มีราคาที่ลดลง ทำให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้น แนะนำเก็บหุ้น CPF (บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ) ให้มูลค่าที่เหมาะสม 40 บาท

จากธุรกิจหลักที่เติบโตแข็งแรง โดยคาดว่าผลประกอบการ CPF จะเพิ่มขึ้น 16% YoY ในปี 2563 และมี CAGR ในอนาคตที่ 12% ในช่วง 3 ปี เนื่องจาก 1) ขาขึ้นของราคาหมูจากการระบาดของโรคไข้หวัดหมู 2) ราคาอาหารสัตว์ที่ลดลงทำให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้น  3) รายได้ที่เพิ่มขึ้นจาก Hylife และด้วยการซื้อกิจการของ Tesco ที่จะเสร็จสิ้นในไตรมาส4/63 จะทำให้อัตรากำไร และช่องทางการขายเพิ่มขึ้น ) 

ขณะเดียวกันแนะนำให้ “ถือ” TU  (บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ) โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 14.50 บาท (PER 16.2 เท่าสำหรับคาดการณ์ปี 63 ) อัตรากำไรถูกชดเชยจากผลขาดทุนของ Red Lobster โดยมีปัจจัยกดดันจาก 1) การดำเนินงานของ Red Lobster ที่อ่อนแอลง และ 2) เศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง ทำให้ยอดขายอาหารแช่แข็งลดลงผ่านช่องทาง HoReCa มูลค่าที่เหมาะสมของเราอิง PER ที่ 16.2 เท่าสำหรับปี 2563 อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอาหาร และปลาเป็นโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพมากกว่า ทำให้จะได้ประโยชน์ในด้านอาหารสุขภาพมากกว่า CPF