เสี่ยตัน คลายล็อกธุรกิจ ส่ง 2 น้องใหม่ รุกตลาดสุขภาพ
อิชิตันฯ คลายล็อกธุรกิจรับเศรษฐกิจฟื้นหลังโควิด เร่งเสริมทัพธุรกิจขยายไลน์สินค้า ทั้งนมอัดเม็ดล“วันมอร์” และ “PH PLUS 8.5” เครื่องดื่มน้ำอัลคาไลน์ รับเทรนด์สุขภาพ
หลังจากประกาศเดินหน้าแผนงานตามกลยุทธ์ 3 N ที่ประกอบไปด้วย New Business, New Market, New Product ของอิชิตัน กรุ๊ป ตั้งแต่ต้นปีผ่านมา เพื่อย้ำภาพลักษณ์ใหม่การเป็นบริษัทที่มากกว่าผู้ผลิตเครื่องดื่ม ล่าสุดอิชิตัน กรุ๊ปก็ คลายล็อกธุรกิจ พร้อมเปิดตัว 2 น้องใหม่“วันมอร์ (OneMorr)” และ “PH PLUS 8.5” ในพอร์ตสินค้าเพื่อสุขภาพออกรับเทรนด์ตลาด หลังสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “วันมอร์ เป็นการแตกไลน์ครั้งแรกออกจากผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม เพื่อเป็นการสร้างศักยภาพตามกลยุทธ์ 3 N (New Business, New Market, New Product) โดยเริ่มเข้าสู่ตลาดสินค้าคุณภาพสำหรับเด็ก โดยนำร่องสินค้าสำหรับเด็กตัวแรกเจาะเข้าตลาดของขบเคี้ยว โดยเฉพาะนมอัดเม็ดเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ด้วยมูลค่าตลาดกว่า 350 ล้านบาท
บริษัทจึงได้เปิดตัวนมอัดเม็ดแบรนด์วันมอร์ 2 รสชาติ ได้แก่ รสหวาน (ต้นตำรับ) และรสช็อกโกแลต ขนาดบรรจุ 10 กรัม และ 20 กรัม ในราคาเริ่มต้นที่ 10 บาท มีทั้งความอร่อยและคุณประโยชน์จากนมแท้ๆ จากนิวซีแลนด์ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนรักสุขภาพ ให้เคี้ยวอร่อยและได้ประโยชน์ทุกที่ทุกเวลา ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัยในช่วง New Normal ที่ทุกคนมองหาสินค้าที่ดีต่อสุขภาพ อีกทั้งยังเป็นการรองรับเทรนด์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มองว่านมอัดเม็ดของไทยเป็นสินค้ายอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงมีโอกาสสูงในการขยายไปตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV และประเทศจีน
ทั้งนี้เป้าหมายแรกของอิชิตัน คือ ทำให้แบรนด์วันมอร์เป็นที่รู้จักโดยเฉพาะในกลุ่มแม่และเด็ก รวมไปถึงคนที่ชื่นชอบขนมขบเคี้ยวที่มีประโยชน์ ต่อสุขภาพ คาดว่าภายในปี 2563 จะสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 50 ล้านบาทเฉพาะตลาดภายในประเทศ และคว้าส่วนแบ่งตลาด 15% สำหรับการศึกษาตลาดในปีแรก และมีแผนขยายตลาดไปสู่ CLMV จีน และอินโดนีเชีย
พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวอีกผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ “PH PLUS 8.5” เครื่องดื่มน้ำอัลคาไลน์ ผสมวิตามินบีรวม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจดูแลตัวเอง และมองหาวิธีการสร้างสุขภาพที่ดีในรูปแบบของไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ
สำหรับเทรนด์การดื่มน้ำ PH ที่มีคุณสมบัติเป็นด่างได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศญี่ปุ่น และไต้หวัน จะเห็นได้จากจำนวนผู้เล่นและมูลค่าตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนเมืองและคนที่ให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพจากภายใน เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบของร่างกายถึง 70% ร่างกายมีการใช้น้ำทุกส่วนและหมุนเวียนไปทุกอวัยวะ ดังนั้นการนำน้ำเข้าสู่ร่างกายจึงจะต้องเลือกน้ำคุณภาพที่มีความเหมาะสม เช่น น้ำที่มีคุณสมบัติเป็นด่าง มีโมเลกุลขนาดเล็ก และไม่มีสารโลหะหนักเจือปน อิชิตันจึงได้นำเข้าเทคโนโลยีที่ได้รับลิขสิทธิ์จากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาใช้ในการผลิต และหวังว่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับผู้บริโภคที่รักสุขภาพชาวไทยเช่นกัน โดยวางเป้าหมายการขายไว้ที่ 1,000 ล้านบาท