ฟื้นฟู ”การบินไทย" อนุทิน แจงนายกฯเห็นด้วย

15 พ.ค. 2563 | 10:22 น.

"อนุทิน" แจงนายกฯเห็นด้วยฟื้นฟู ”การบินไทย" แนะถอยคนละก้าวเดินหน้าต่อได้ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้นใหญ่กระทรวงการคลังที่ต้องถกกันอีก

วันนี้(15 พ.ค.63) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เรียกนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ในฐานะกำกับดูแลการบินไทยเข้าหารือประมาณครึ่งชั่วโมง 

ฟื้นฟู ”การบินไทย" อนุทิน  แจงนายกฯเห็นด้วย
โดยนายอนุทิน เปิดเผยภายหลังการหารือว่า การบินไทยถือเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ ส่วนการเพิ่มเงินจากกระทรวงการคลังไปค้ำประกันหนี้ หรือหาเงินทุนเพื่อจะมาลงก็ลำบาก ซึ่งก็น่าจะเหลือการฟื้นฟูการบินไทยที่จะต้องมีขั้นตอนทำไปพร้อมกับการปรับโครงสร้างผู้บริหารการบินไทย เพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้นใหญ่ของการบินไทย ซึ่งมีกระทรวงการคลังเป็นหลักแต่วันนี้ทางกระทรวงการคลังไม่ได้มาหารือด้วย

ฟื้นฟู ”การบินไทย" อนุทิน  แจงนายกฯเห็นด้วย

"นายกรัฐมนตรีมีความเห็นในทางเห็นด้วยที่จะให้มีการฟื้นฟูกิจการการบินไทย ซึ่งถือเป็นวิธีการที่สวยที่สุด ถ้าทุกคนและทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ การบินไทยก็จะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้"

ผู้สื่อข่าวถามว่าการบินไทยทำแผนฟื้นฟูมาแล้วหลายรอบแต่ยังไม่ได้ผล นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ผ่านมาเป็นแผนการฟื้นฟูกิจการภายใน ไม่ใช่แผนการฟื้นฟูหนี้ แต่เรากำลังฟื้นฟูหนี้ที่มีอยู่ ทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้

ฟื้นฟู ”การบินไทย" อนุทิน  แจงนายกฯเห็นด้วย

เมื่อถามว่า นายกฯ ให้ไปศึกษาพระราชบัญญัติล้มละลาย การฟื้นฟูกิจการในหมวดฟื้นฟูกิจการ ซึ่งวันนี้เข้าอยู่หลายข้อ คนที่ยื่นฟื้นฟูกิจการไม่จำเป็นต้องเป็นลูกหนี้อย่างเดียว เจ้าหนี้ที่มีหนี้ มากกว่า 10 ล้านบาทก็สามารถยื่นขอให้ฟื้นฟูกิจการได้ ซึ่งในหมวดฟื้นฟูกิจการจะมีเงื่อนไขที่กำหนดไว้ชัดเจนว่าอะไรบ้างที่เข้าในกระบวนการฟื้นฟูกิจการเช่น

1.มีหนี้สินล้นพ้นตัว มีส่วนของหนี้สินเกินกว่ากี่เท่า  2. ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ซึ่งก็ต้องไปดู  และ3.ในส่วนของผู้ถือหุ้น หรือส่วนทุน เป็นลบ ก็ต้องดูว่าเข้าเงื่อนไขหรือไม่ นอกจากนี้ก็มีรายละเอียดอีกหลายข้อ และไม่ใช่ต้องเข้าทั้งหมดมีเพียงข้อใดข้อหนึ่งก็ยื่นขอฟื้นฟูได้

นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้เราก็ต้องแข่งกับเวลา เมื่อเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการแล้ว ก็เป็นเรื่องของเจ้าหนี้และลูกหนี้โดยมีศาลเป็นผู้กำกับ และจะต้องมีผู้ทำแผน เมื่อเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการแล้ว อำนาจการบริหารจัดการบริษัทนั้นๆ ก็จะอยู่กับผู้ทำแผนที่ศาลเป็นผู้แต่งตั้ง โดยเป็นความเห็นชอบทั้งจากเจ้าหนี้และลูกหนี้ ผู้ทำแผนต้องมีหน้าที่เจรจากับเจ้าหนี้ และทำแผนฟื้นฟูกิจการขึ้นมา ถ้าตกลงกันได้ก็ไปโหวตที่ศาล หลังจากนั้นผู้ทำแผนก็หมดหน้าที่ไป เป็นหน้าที่ของผู้บริหารแผนที่ต้องทำตามแผนฟื้นฟูกิจการตามที่ศาลมีคำพิพากษามา ซึ่งมีขั้นตอนอีกมาก

ฟื้นฟู ”การบินไทย" อนุทิน  แจงนายกฯเห็นด้วย

“วันนี้เราต้องเร่งหาข้อสรุปในตัวนโยบาย โดยนายกรัฐมนตรี บอกว่าเราต้องฟื้นฟูกิจการ ถ้าไม่ฟื้นฟูเราไปต่อไม่ได้ ตอนนี้เรามีสถานการณ์โควิด สายการบินก็ไม่ได้บิน เดินทางเข้าประเทศต่างๆก็ไม่ได้ สายการบินในประเทศรายได้ก็หายไปมาก ผมคิดว่าตอนนี้เหลือเพียงซอยเดียวแล้ว การฟื้นฟูกิจการเป็นทางที่ดีที่สุด ทุกคนต้องถอยกันบ้าง เพียงแค่ก้าวเดียว ก็จะเดินหน้าไปได้ 5 ก้าว ซึ่งเราควรจะต้องทำ ซึ่งกระทรวงคมนาคมเพียงแต่เสนอเท่านั้น แต่ทั้งหมดอยู่ที่ผู้ถือหุ้นโดยเฉพาะกระทรวงการคลังก็ต้องไปพูดคุยกันอีกที”

เมื่อถามว่าการที่กระทรวงการคลังไม่มาร่วมหารือด้วยมีนัยยะอะไรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คงต้องไปถาม นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ดู อย่างไรก็ตามหากพูดถึงผู้ถือหุ้น ถ้าในบริษัทนั้นๆ มีส่วนของทุนเป็นลบ ใบหุ้นก็ไม่มีราคาอะไร เจตนารมณ์ของการฟื้นฟูกิจการภายใต้พ.ร.บ.ล้มละลาย หลักการคือเมื่อคนสะดุดล้มด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม แทนที่จะขายทรัพย์สินหรือขายทอดตลาด แล้วนำมาแบ่งเฉลี่ย อาจจะได้คนละนิดหน่อย แต่การให้โอกาสในการฟื้นฟูกิจการภายใต้กฎกติกามารยาทใหม่ทั้งหมด กิจการนี้ก็อาจจะรอด ธุรกิจก็เดินหน้าต่อไปได้ ส่วนใดที่ไม่มีมูลค่าก็อาจกลับมามีค่าก็ได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้

“คนที่ตั้งใจทำ ให้ความร่วมมือดีทั้งผู้ถือหุ้นและลูกหนี้ พนักงาน กิจการก็จะสามารถกลับมาใหม่ได้ แต่ถ้าทุกคนไม่ให้ความร่วมมือ อะไรก็ไม่เอาอะไรก็ไม่ได้ เจ้าหนี้ก็ไม่มีทางเลือก ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ต้องขายทอดตลาด หลักการก็มีอยู่แค่นี้ แต่สำหรับรัฐบาล โดยเฉพาะหัวหน้ารัฐบาลอย่างนายกรัฐมนตรี ก็อยากให้มีการฟื้นฟูกิจการก่อน การไปขายทอดตลาด หรือปล่อยให้ล้มละลายไม่มีอยู่ในหัวของนายกรัฐมนตรี เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ถือเป็นทิศทางที่ดี”