พณ.จับมือ ห้างฯ-ร้านสะดวกซื้อ จัดลดราคาสินค้าครั้งที่3 

11 พ.ค. 2563 | 10:19 น.

ปลัดพณ.เผย เตรียมจับมือ ห้างฯ-โมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้อ จัดโครงการลดราคาสินค้า ในระยะที่3 เพื่อช่วยลดค่าครองชีพประชาชน 

วันที่ 11 พ.ค.63 นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการควบคุมสินค้า แถลงที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) ถึงการดูแลสินค้าอุปโภคบริโภคว่า กระทรวงพาณิชย์กำลังจัดโครงการพาณิชย์ลดราคาเพื่อประชาชนในระยะที่ 2 พร้อมกันนี้จะมีการขยายไปสู่เฟสที่ 3 ในระยะอันใกล้นี้  

 

โครงการนี้เป็นความร่วมมือของทุกห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด และร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ เริ่มดำเนินการเฟสแรกตั้งแต่ 16 เมษายน 2563  มีสินค้าเข้าร่วมโครงการ 72 รายการ ขณะนี้เป็นการดำเนินการเฟสที่ 2 เริ่มต้นวันที่ 25 เมษายน 2563 เป็นต้นมา มีสินค้าเข้าร่วมรายการถึง 3,025 รายการ และมีผู้ประกอบการเข้าร่วม 51 ราย จากเดิม 30 ราย

 

สินค้าลดราคา เช่น ข้าวหอมมะลิ 100% ถุงละ 5 กิโลกรัม ราคาเหลือต่ำสุด 138 บาท หรือข้าวขาว ถุงบรรจุละ 5 กิโลกรัม ราคาต่ำสุดเพียง 75 บาท อย่างไรก็ตาม แต่ละที่ราคาอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับยี่ห้อและขนาด โดยประชาชนผู้สนใจซื้อสินค้าสามารถตรวจสอบข้อมูลทางเว็บไซต์ของกรมการค้าภายในได้ว่าที่ไหนจำหน่ายสินค้าอะไร อย่างไรบ้าง  

ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวด้วยว่า เซเว่นอีเลฟเว่นยังเข้าร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ โดยลดราคาอาหารแช่แข็ง เมนูยอดนิยม 6 เมนู จากเดิมที่ขายราคาประมาณ 30 - 32 บาท เช่น ข้าวกระเพราหมู ข้าวผัดเผ็ดหน่อไม้ไก่ ข้าวไก่กระเทียม ไข่เจียวทรงเครื่อง โดยขายราคาเดียว 20 บาท รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด ลดราคามาม่าคัพ ทุกรส จากราคา 13 บาท เหลือ 10 บาททั่วประเทศ

 

การดำเนินการดังกล่าว ผู้ประกอบการทุกราย รวมถึงห้างโมเดิร์นเทรด และร้านสะดวกซื้อ เห็นตรงกันว่าเป็นสิ่งที่ดี และเป็น CSR ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน  ตลอดจนจะเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้สามารถซื้อหาสินค้าราคาถูก และลดค่าครองชีพไปได้ส่วนหนึ่ง

 

พณ.จับมือ ห้างฯ-ร้านสะดวกซื้อ จัดลดราคาสินค้าครั้งที่3 

 

หลักการในการจัดการสินค้าอุปโภคบริโภค ข้อที่ 1 สินค้าจะต้องมีปริมาณเพียงพอ ข้อที่ 2 ราคาจะต้องเป็นธรรมและมีทางเลือกที่หลากหลาย ข้อที่ 3 ผู้บริโภคจะต้องเข้าถึงสินค้าได้ ไม่มีการกักตุนสินค้า กระทรวงพาณิชย์ซึ่งกำกับดูแลสินค้าอุปโภคบริโภค ได้ให้ความมั่นใจว่าสินค้าในประเทศจะไม่มีการขาดแคลน การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่เหมือนภัยพิบัติที่จะกระทบกับโรงงานที่ผลิตสินค้า กำลังการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทยยังมีอยู่อย่างเหลือเฟือ

ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ มีภารกิจที่ได้รับมอบนโยบายจาก ศบค. ให้ดูแลในเรื่องของสินค้าทั้งปริมาณและราคา จึงได้จัดโครงการธงฟ้าสู้ภัยโควิด-19 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพได้มากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการเดินทางเข้าไปแหล่งชุมชน ซึ่งมีโอกาสติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนี้ 

 

1. จัดรถเร่ 250 คัน เรือเร่ 5 ลำ ในวันที่ 25 มีนาคม 63 ในพื้นที่ กทม. นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี  2. จัดรถเร่ 350 คัน เรือเร่ 5 ลำ วันที่ 17-24 เมษายน 63 ในพื้นที่ กทม. นครปฐม ปทุมธานี และนนทบุรี 3. รถเร่ 300 คัน เริ่มวันที่ 13 พฤษภาคม 63 ในพื้นที่ สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง สมุทรสาคร ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม  โดยจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่สำคัญ ได้แก่ ไข่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมันปาล์ม เจลล้างมือ ปลากระป๋อง ข้าวหอมไทย ผลไม้ และเนื้อไก่ในราคาถูก