ทรีนีตี้เปิดขายกองทุนส่วนบุคคลรุกลงทุนตปท.

28 เม.ย. 2563 | 09:52 น.

"ทรีนีตี้" เปิดขายกองทุนส่วนบุคคลถึง 27 พ.ค.นี้  ชี้วิกฤติโควิด-19 เป็นโอกาสลงทุนต่างประเทศ ผลจากธนาคารกลางประเทศต่างๆ อัดฉีดเงินเข้าระบบไม่จำกัด หนุนสภาพคล่องท่วมโลก ชี้หุ้นจีนฟื้นตัวเร็วสุด 

ดร.วิศิษฐ์  องค์พิพัฒนกุล  กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด  เผยว่า ทรีนีตี้ประเมินวิกฤติไวรัสโควิด-19 ที่กำลังคลี่คลายถือเป็นโอกาสในการออกไปลงทุนต่างประเทศ โดยมองว่าตลาดหุ้นจะกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้งภายหลังจากการออก QE ของธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ที่อัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบ เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ ฯ (เฟด) ออก QE แบบไม่จำกัดวงเงินซึ่งได้ทำแล้วราว 2 ล้านล้านเหรียญฯ และคาดว่าจะทำเพิ่มอีก 2 ล้านล้านเหรียญฯในปีนี้  และเฟดได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาอยู่ที่ระดับต่ำ 0-0.25 % 

ขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ก็ใช้นโยบายการคลังด้วยการอัดฉีดเงินเข้าระบบประมาณ 10% ของจีดีพี ธนาคารกลางยุโรปออก QE ในวงเงิน 1.1 ล้านยูโรภายในสิ้นปีนี้  ส่วนธนาคารกลางญี่ปุ่นออกมาตรการซื้อพันธบัตรรัฐบาลแบบไม่จำกัดเช่นกัน

“ผลของการดำเนินนโยบายนี้จะทำให้สภาพคล่องของเงินทุนล้นโลก  ซึ่งจะเป็นตัวสนับสนุนให้ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ภายหลังวิกฤติโควิด-19 โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนน่าจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าประเทศอื่น”

ทรีนีตี้เปิดขายกองทุนส่วนบุคคลรุกลงทุนตปท.

ทั้งนี้จะเห็นว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของจีนได้ฟื้นตัวกลับมาอยู่ในตัวเลขเดียวกัน     กับในช่วงก่อนวิกฤติแล้วหรือคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะใช้เวลาในการฟื้นตัวประมาณ 1-2 ปี ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจกลับมาที่เดิมและมองว่าตลาดหุ้นจีนจะฟื้นตัวเร็วสุด ขณะที่สหรัฐ ฯ จะใช้เวลาอย่างน้อย 4 ปี ในขณะที่เศรษฐกิจของยุโรปอาจจะใช้เวลามากกว่า 4 ปี  ส่วนประเทศไทยยังต้องใช้เวลาเพราะวิกฤติรอบนี้ทำให้จีดีพีปีนี้จะติดลบ 6-7 % ซึ่งถือว่าติดลบหนักสุดในภูมิภาคเอเชีย

ดร.วิศิษฐ์ กล่าวว่าการจัดสรรเงินลงทุน ในสภาวะการณ์เช่นนี้ ทรีนีตี้ แนะนำให้ลงทุนทองคำ    ในสัดส่วน 10% ลงทุนในหุ้นไทย 20% เน้นหุ้นปันผลดีประมาณ 30-40%  และลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ BBB ขึ้นไปและอีก 10-20% ลงทุนในกองทุนส่วนบุคคลทรีนีตี้ เอเชียน ไพรเวทฟันด์ เพราะเป็นกองทุนที่จะลงทุนในหุ้นจีนในสัดส่วนที่มากและ ส่วนอีก 10-20 % ถือเป็นเงินสด  เพราะในภาวะที่ตลาดหุ้นยังมีความผันผวนสูงการถือเงินสดจะสร้างโอกาสที่ดีให้กับนักลงทุนได้ในจังหวะที่ตลาดปรับตัวลดลงมา
ทรีนีตี้เปิดขายกองทุนส่วนบุคคลรุกลงทุนตปท.  

“ทรีนีตี้มองว่าในวิกฤติมีโอกาสสำหรับการลงทุนเสมอ  ดังนั้นจะเปิดขายกองทุนส่วนบุคคล ทรีนีตี้ เอเชียน ไพรเวทฟันด์ (TRINITY ASIAN Private Fund) ให้นักลงทุนจองซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 27 พฤษภาคม 2563 กองทุนนี้จะมีสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นจีนเป็นหลัก   เพราะเศรษฐกิจและตลาดหุ้นจีนจะสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าประเทศอื่นๆ ”

สำหรับกองทุนส่วนบุคคล ทรีนีตี้ เอเชียน ไพรเวทฟันด์ บริหารงาน โดย AZIM Singapore   เป็นกองทุนปิดที่มีนโยบายลงทุนหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ยกเว้น ญี่ปุ่น (Asia ex-Japan) มีการบริหารกองทุนแบบ Active Fund ที่เลือกลงทุนหุ้นที่มีคุณภาพ มีการเติบโตและมีมูลค่าเพิ่ม โดยผู้จัดการกองทุน   จะปรับเปลี่ยนหุ้นในพอร์ตไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากปัจจัยแวดล้อมได้อย่างรวดเร็ว  ซึ่งกลยุทธ์การบริหารกองทุนในลักษณะนี้ทำให้ผลการดำเนินงานของกองทุน TRINITY Asian Private Fund (ex-Japan)  มีผลตอบแทนสูงกว่า Benchmark (MSCI ex-Japan) มาโดยตลอด ณ วันที่ 17 เมษายน 2563 ผลตอบแทน (ที่ยังไม่ได้หักค่าบริหารจัดการ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ) เท่ากับ +11.65% ในขณะที่ MSCI (ex-Japan) -9.58% 

ทรีนีตี้เปิดขายกองทุนส่วนบุคคลรุกลงทุนตปท.

ทั้งนี้ นักลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 27 พฤษภาคม 2563 ซึ่งกำหนดเงินลงทุนเริ่มต้น 2 ล้านบาท มีระยะเวลาลงทุนประมาณ 1 ปี กองทุนนี้ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล  โดยจะนำเงินปันผลไปลงทุนต่อเพื่อสร้างผลตอบแทนรวมทั้งได้มีการป้องกันความเสี่ยงในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วนด้วย ซึ่งการป้องกันความเสี่ยงจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน