เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 63 นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศูนย์ฯ ฝุ่นควัน เพื่อติดตามสถานการณ์และแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ โดยปัจจุบันสถานการณ์ฝุ่นควันไฟป่าในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่
อย่างไรก็ตามยังพบว่ามีการเกิดไฟป่าขึ้นอยู่ 2 จุด ในเขตพื้นที่อำเภอฮอด และเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำการดับไฟเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้ง 2 จุด ทั้งนี้ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเร่งติดตามการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดให้ได้โดยเร็ว
"ในช่วงรอบวันที่ผ่านมาจนถึงช่วงเช้ามืดในวันนี้ ได้เกิดฝนตกหนักเกือบทั่วทุกพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้จังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้มีสภาพอากาศที่ดีเป็นอย่างมาก ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝน ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แจ่มใส และแทบไม่มีฝุ่นควันเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา ถือว่าเป็นสภาพอากาศที่ดีที่สุดในรอบหลายเดือน "
นายคมสัน กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ขณะนี้สถานการณ์ฝุ่นควันไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่กำลังดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายอำเภอไม่พบการเกิดไฟป่าติดต่อกันมาหลายวัน อย่างไรก็ตาม จังหวัดเชียงใหม่ จะยังคงมีการเฝ้าติดตามและจะยังคงมีการประชุมคณะทำงานของศูนย์ฯ ฝุ่นควัน อย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์ไฟป่าจะสงบลงและมีการดำเนินคดีต่างๆ กับผู้กระทำผิด ให้เรียบร้อยทั้งหมด
ส่วนแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ ต่อจากนี้ไปจะเข้าสู่ช่วงของการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ โดยได้กำหนดวางแผนดำเนินการไว้ในช่วงระหว่างวันที่ 1-16 พฤษภาคมนี้ และจากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงแค่ช่วงปลายเดือนนี้เท่านั้น หลังจากนั้นปริมาณฝนจะลดและเบาบางลง
ดังนั้น จึงจะสอดคล้องกับช่วงของการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ทำให้ทางจังหวัดฯ สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยการดำเนินการบริหารจัดการเชื้อเพลิงดังกล่าวนั้น ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีนโยบายและเน้นย้ำให้ดำเนินการโดยใช้หลักบูรณาการของกำลังพลในทุกภาคส่วนในพื้นที่ ทั้งทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ดับไฟป่า และคนในชุมชน ให้ช่วยกันดูแลควบคุมการเผาพื้นที่ทางการเกษตร ไม่ให้ลุกลามเข้าไปยังเขตพื้นที่ป่าไม้หรือเขตพื้นที่ชุมชน พร้อมมอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน เป็นผู้นำและรับผิดชอบในการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในเขตพื้นที่ของตนเอง ให้เป็นไปตามแบบแผนที่ได้วางไว้