"LINE - นีลเส็น" เผยพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนถาวร

16 เม.ย. 2563 | 08:26 น.

LINE และนีลเส็น ร่วมเผยเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ระบุคนโทรผ่านไลน์ และวิดีโอคอล เพิ่มกว่า 270% และ 236% โดยโทรผ่าน LINE บนคอมพิวเตอร์เพิ่มสูงถึง 264% ในช่วงเดือนมีนาคม ด้านนีลเส็น แจง ผู้บริโภคมีแนวโน้มเปลี่ยนพฤติกรรมถาวร ซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่ม อ่อนไหวต่อราคาน้อยลง

LINE ประเทศไทย จัดงาน LIVE EVENT LINE FOR BUSINESS ภายใต้หัวข้อ ‘THAILAND NOW AND NEXT AFTER COVID-19 พฤติกรรมผู้บริโภคไทยจะเปลี่ยนไปอย่างไรหลังสถานการณ์โควิด-19’ อีเวนท์ออนไลน์ที่เน้นติดอาวุธให้ธุรกิจไทยก้าวผ่านช่วงภาวะวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยผู้เชี่ยวชาญจาก LINE ประเทศไทย ร่วมกับนักการตลาดชั้นนำ เผยข้อมูลวิเคราะห์การตลาดและกลยุทธ์ธุรกิจต่างๆ ให้ผู้ประกอบการสามารถรับมือและปรับตัวได้ ผ่านช่องทาง LINE Official Account: @Linebizth เมื่อวันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมรับชมอย่างล้นหลามรวมมากกว่า 3 แสนคน

นางสมวลี ลิมป์รัชตามร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะนีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด เผยแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างถาวรในหัวข้อ ‘Next for Thais: เทรนด์ผู้บริโภคไทยในก้าวต่อไป หลังสถานการณ์โควิด-19’ โดยการกักตัวอยู่บ้านได้เปลี่ยนพฤติกรรมการรับสื่อ และการบริโภคของผู้คน ไปเน้นช่องทางออนไลน์มากขึ้น และมีแนวโน้มจะกลายเป็นพฤติกรรมถาวรแม้สถานการณ์โควิด-19 จะดีขึ้นในอนาคต

ความต้องการซื้อสินค้าที่จำเป็นผ่านออนไลน์มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังหันมาให้ความสำคัญกับคุณภาพและประสิทธิภาพของสินค้ามากขึ้น มีความอ่อนไหวด้านราคาลดน้อยลง จึงเป็นโอกาสของการแข่งขันด้านคุณภาพ ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ เช่น ผู้สูงอายุก็นิยมซื้อสินค้าออนไลน์สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้ประกอบการจะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซในธุรกิจ เนื่องจากเป็นเทรนด์ที่มีแนวโน้มจะโตอย่างต่อเนื่อง และจะกลายเป็น ‘New Normal’ หรือ‘ความปกติในรูปแบบใหม่’ แม้ภายหลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 จะสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม

การสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน รวมถึงใช้แอปพลิเคชันออกกำลังกายหรือเกี่ยวกับสุขภาพ กลายเป็นตัวเลือกสำคัญในช่วงการเว้นระยะห่างทางสังคมและทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) อีกทั้งแบรนด์และสินค้าในประเทศ ก็มีแนวโน้มได้รับความนิยมสูงขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคต้องการซื้อสินค้าที่ไม่ต้องส่งระยะไกลหรือใช้เวลานาน จึงเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการและแบรนด์สินค้าไทยที่จะผลักดันสินค้าตัวเองมากยิ่งขึ้น  นอกจากนี้โซเชียลมีเดียยังได้กลายเป็นสื่อกระแสหลักและมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค กลายมาเป็นช่องทางที่ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญ โดยพบว่าคนมีพฤติกรรมเข้าไปอ่านข่าวสารโดยเฉลี่ยถึง 12 ครั้งต่อสัปดาห์ 

“ผู้ประกอบการต้องปรับตัวจากโลกออฟไลน์สู่โลกออนไลน์ เพื่อตอบรับพฤติกรรมถาวรใหม่นี้ อีกทั้งควรต้องขยายพื้นที่ในการให้บริการและระบบการขนส่งให้ครอบคลุมขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้โซเชียลมีเดียที่มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นทุกวันเป็นช่องทางหลักในการทำธุรกิจต่อไป” สมวลี กล่าว

นอกจากเทรนด์ความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคไทยโดยรวมแล้ว ด้านแพลตฟอร์มที่ให้บริการคนไทย จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันอย่าง LINE ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย โดยในช่วงการพูดคุยในหัวข้อ ‘Now on LINE’ นายพฤทธิสิทธิ์ ประทีปะวณิช หัวหน้าฝ่ายจัดการแพลตฟอร์มและบริการ LINE ประเทศไทย เผยว่า ด้วยความที่ LINE สามารถตอบโจทย์การใช้งานคนไทยได้ในหลายมิติ ทั้งการทำงาน การใช้ชีวิต การติดตามข้อมูลข่าวสาร และเพื่อความบันเทิง ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าคนไทยมีการโทรผ่าน LINE มากขึ้น ทั้งการใช้บริการโทรฟรีและวิดีโอคอลผ่าน LINE ที่เพิ่มขึ้นกว่า 270% และ 236% ตามลำดับ สิ่งที่น่าสนใจคือ คนไทยใช้งานการโทรผ่าน LINE บนคอมพิวเตอร์เพิ่มสูงขึ้นถึง 264% ในช่วงเดือนมีนาคม เนื่องจากมีการเพิ่มฟีเจอร์แชร์หน้าจอระหว่างการโทร ที่ LINE ตั้งใจพัฒนามาเพื่อสนับสนุนการทำงานจากที่บ้านในสถานการณ์ดังกล่าว