หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 14 เมษายน 2563
+/- กลุ่มโอเปกและพันธมิตรได้บรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการประชุมฉุกเฉินรอบที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมเห็นชอบให้ปรับลดกำลังการผลิต 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน คิดเป็นราว 10% ของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลก โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ไปจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย. นอกจากนั้นยังมีประเทศอื่นเช่น บราซิล แคนาดา และสหรัฐฯ ที่จะร่วมปรับลดกำลังกำลังผลิตลงที่ระดับ 3.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยตลาดคาดว่าการปรับลดกำลังการผลิตทั่วโลกครั้งนี้จะตกราว 19-20 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตามตลาดคาดว่าการปรับลดดังกล่าวยังไม่เพียงพอ เมื่อเทียบกับความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลงราว 30% หลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
+ ซาอุดิอาระเบียประกาศลดราคาน้ำมันอย่างเป็นทางการ (Official Selling Price, OSP) ของเดือนพ.ค. สำหรับน้ำมันดิบทุกประเภท เช่น ประกาศ OSP ของ Arab Extra Lt ที่ส่งมอบเอเซียเท่ากับ -7.4 เหรียญต่อบาร์เรล จากระดับ -3.1 เหรียญต่อบาร์เรลในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์โดยสะท้อนความต้องการน้ำมันดิบที่ลดลงในภูมิภาค
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เพราะหลายโรงกลั่นในอินเดียส่งออกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นราว 40,000-50,000 บาร์เรลในเดือนเม.ย. เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันในอินเดียปรับลดลง หลังการประกาศปิดเมืองเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังหลายประเทศประกาศปิดเมือง ซึ่งกดดันความต้องการใช้น้ำมันดีเซล เช่น อินเดียประกาศปิดเมือง 21 วันนับจากวันที่ 25 มี.ค. ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในเดือนมี.ค ลดลง 26% เมื่อเทียบกับมี.ค. ปีที่แล้ว
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์