โฆษกรบ. เผยหั่นงบ 10% เพื่อดูแลผลกระทบโคโรนาและภัยแล้ง 

10 มี.ค. 2563 | 11:03 น.

โฆษกรบ. เผยครม.เห็นชอบดึงงบ3ส่วน ประจำ-ลงทุน-งบกลาง เพื่อดูแลผลกระทบโคโรนาและภัยแล้ง 

 

วันที่ 10 มี.ค. 63 ที่ทำเนียบรัฐบาล ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า  ที่ประชุมครม. เห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอมาตรการเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากไวรัสโคโรนา และปัญหาภัยแล้ง ใน 3 ส่วน 

ส่วนแรกสำหรับงบรายจ่ายประจำ  ครม.เห็นชอบปรับลดค่าใช้จ่ายงบประมาณ หรือ ปรับเปลี่ยนวิธีดำเนินงานสำหรับงบประมาณในลักษณะรายจ่ายประจำ ที่มีค่าใช้จ่ายในในการเดินทางไปราชการต่างประเทศให้ได้ประมาณ 10% ของงบปราณรายจ่ายประจำของหน่วยรับงบประมาณ เพื่อไปดำเนินการทีก่อให้เกิดการจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ประกอบการหรือผู้ผลิตรายย่อย รวมถึงการจ้างแรงงาน 

“ให้หน่วยรับงบประมาณปรับแผนการเดินทางไปปรับแผนการเดินทางไปราชการต่างประเทศ ที่ตั้งไว้สำหรับศึกษา ดูงาน ประชุม สัมมนา อบรม ณ ต่างประเทศ โดยให้ดำเนินการภายในประเทศหรือ เปลี่ยนแปลงงบประมาณไปดำเนินการตามแนวทางจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ประกอบการหรือผู้ผลิตรายย่อย รวมถึงการจ้างแรงงาน สำหรับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศกรณีอื่น ที่เป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19  หากสามารถระงับหรือเลื่อนการเดินทางได้ให้หน่วยรับงบประมาณพิจารณาดำเนินการ”ดร.นฤมล กล่าว

ส่วนงบประมาณรายจ่ายลงทุน ในประเภทรายจ่ายค่าครุภัณฑ์ทีมีวงเงินต่ำกว่า 1 ล้านบาท หรือ สิ่งก่อสร้างที่มีวงเงินต่ำกว่า 10 ล้านบาท ที่แน่ชัดว่าไม่สามารถจัดซื้อจัดจ้างได้ใน มี.ค.2563 ให้หน่วยรับงบประมาณพิจารณาโอนหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรรไปดำเนินการจัดหาครุภัณฑ์ หรือ สิ่งก่อสร้างอย่างอื่น ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโรคโควิด – 19 หรือถานการณ์ภัยแล้ง เช่น การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับพื้นที่ภัยแล้ง โดยใช้แรงงานจากภาคการเกษตร หรือ ปรับเปลี่ยนวิธีการจ้างเหมา เป็นการดำเนินการเองเพื่อให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ให้พิจารณาทบทวนการจัดหาครุภัณฑ์จากต่างประเทศมาดำเนินการจัดหาครุภัณฑ์จากผู้ผลิตภายในประเทศ เว้นแต่กรณีที่มีความจำเป็นอย่างแท้จริง

โฆษกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำนักงบประมาณ โดยเห็นสมควรให้หน่วยรับงบประมาณชะลอการดำเนินการเอาไว้ก่อน ทั้งรายการที่นายกฯ หรือ ครม.เห็นชอบแล้ว หรือ รายการที่มีคำขอของหน่วยรับงบประมาณ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา ทั้งนี้ งบประมาณที่ได้รับการจัดสรรงบไปแล้วแต่ไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันให้ทัน หรือบันทึกใบสั่งซื้อ PO ภายในวันที่ 10 มี.ค.เห็นสมควรให้ยกเลิกโครงการดังกล่าว และให้แจ้งสำนักงบประมาณภายในวันที่ 13 มี.ค. เพื่อดำเนินการส่งคืนงบประมาณไปใช้ในโครงการเพื่อแก้ปัญหาที่มาจากโควิด -19 และสถานการณ์ภัยแล้ง 

“ในกรณีที่หน่วยรับงบประมาณมีภารกิจ และอำนาจหน้าที่เพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด -19 และสถานการณ์ภัยแล้ง มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน ให้เสนอขอรับการจัดสรรตาม เพื่อแก้ไขหรือเยียวยาความเดือดร้อนความเสียหาย ต่อสำนักงบประมาณ ในวันที่ 13 มี.ค.”ดร.นฤมล กล่าว

โฆษกฯ กล่าวด้วยว่า ในวาระนี้ที่ประชุมครม.ไม่มีรัฐมนตรีท่านใดแสดงความคิดเห็น รวมทั้งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้กล่าวอะไร ส่วนวงเงิน 10% เมื่อหักแล้วสำหรับรายจ่ายประจำจะได้วงเงินเท่าไรนั้น คาดว่าวันที่ 13 มี.ค.นี้สำนักงบประมาณจะทราบตัวเลข