ธอส.เล็งเสนอคลัง ขยายเพดานบ้านล้านหลังเป็น1.2 ล้านบาท

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.เตรียมจะเสนอกระทรวงการคลังพิจารณาการขยายเพดานวงเงินโครงการบ้านล้านหลัง ให้ประชาชนกู้ซื้อบ้านราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท จากปัจจุบันเพดานราคาที่บ้านที่เข้าร่วมโครงการได้ต้องไม่เกิน 1 ล้านบาท เท่านั้น ทั้งนี้เพื่อให้สอดรับกับการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) ที่จะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท ให้กับผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง 

โดยธอส.เชื่อว่าความต้องการที่อยู่อาศัยในราคาดังกล่าวยังคงมีอยู่สูง เห็นได้จากการยื่นขอสินเชื่อในรอบ14 เดือนที่ผ่านมาของธอส. มีผู้ยื่นขอสินเชื่อในโครงการบ้านล้านหลังเฉลี่ยเดือนละ 1,000 ล้านบาท มาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนว่าความต้องการที่อยู่อาศัยในระดับราคาต่ำยังมีอยู่สูง และเชื่อว่ายังมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์สร้างที่อยู่อาศัยไม่เกิน 1 ล้านบาทออกมา ซึ่งเบื้องต้นประมาณ 10,000 ยูนิต ในย่านบางซ่อนและพระราม 9 
 

“อุปสงค์ อุปทานที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทยังมีอยู่สูง เห็นได้จากมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ มีแผนสร้างบ้านคอนโดฯ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลขายอีกมาก  โดยเฉพาะย่านบางซ่อนและพระราม 9 ที่จะขึ้นโครงการใหม่ ในเร็วๆนี้ คาดว่าจะเข้ามาขอสินเชื่อโครงการบ้านล้านหลัง ถึง 10,000 หน่วยด้วยกัน”นายฉัตรชัยกล่าว

อย่างไรก็ตามเพื่อให้โครงการบ้านล้านหลังเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ธอส.จึงได้ร่วมกับบริษัท กรีน เมโทร จำกัด ผู้พัฒนาโครงการหมู่บ้านจัดสรร เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จ.ขอนแก่น อุดรธานี สกลนคร หนองคาย นครราชสีมา และร้อยเอ็ด จำนวน 1,200 หลัง ซึ่งเป็นจังหวัดที่ต้องการที่อยู่อาศัยในราคาดังกล่าวค่อนข้างสูง 

ทั้งนี้ตั้งแต่เริ่มโครงการบ้านล้านหลังมา ธอส.ได้อนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 22,463 ราย วงเงินกู้ 15,988 ล้านบาท จากยอดยื่นกู้ 23,766 ราย วงเงินกู้ 17,513 ล้านบาท และคาดว่าวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ 50,000 ล้านบาท จะหมดในปี 2563-2564 ซึ่งจะเพิ่มวงเงินโครงการดังกล่าวหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป 

ส่วนโครงการลดภาระการผ่อนเงินดาวน์(Cash Back) จำนวน 50,000 บาทให้ผู้กู้ที่เข้าร่วมโครงการบ้านดีมีดาวน์ ปัจจุบันมีผู้ยื่นกู้ 97,000 ราย อนุมัติแล้ว 50,000 ราย โดยในจำนวนนี้ได้รับเงิน Cash Back แล้ว 6,800 รายด้วยกัน 

ด้านนายวิชัย ประเสริฐสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท กรีน เมโทร จำกัด กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่าชาวอีสานยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทอยู่มากกว่า 10,000 หน่วย  เช่น อุดรธานีมีความต้องการ 3,000 หน่วย สกลนคร 1,800 หน่วย หนองคาย 500 หน่วย ร้อยเอ็ด 900 หน่วย นครราชสีมา 3,000 หน่วย และในกลางปีนี้แผนลงทุน 900 ล้านบาท เพื่อขึ้นโครงการที่อยู่อาศัยอีก 1,200 หน่วยขายใน 6 จังหวัดอีสาน   อุดรธานี จ.หนองคาย จ.ขอนแก่น จ.สกลนคร จ.ร้อยเอ็ด และ จ.นครราชสีมา  โดยเงินลงทุนจะกู้จาก ธอส. 400 ล้านบาท และใช้เงินหมุนเวียนบริษัทอีก 500 ล้านบาท คาดจะตอกเสาเข็มได้เดือนมิ.ย.นี้ และเริ่มเข้าอยู่อาศัยปี 2564 

“ที่ผ่านมาบริษัทได้กู้ ธอส. ทำโครงการเป็นทาวน์เฮ้าส์  2 ชั้น ที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งได้รับความสนใจของหมดทั้ง 170 หน่วยอย่างรวดเร็ว และยังมีแผนขยายการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพิ่มอีกในปีนี้ เพื่อรองรับความต้องการในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจะเน้นในทำเลที่ดี และคุณภาพที่ดี”นายวิชัย กล่าว